เลวโดยสันดาน!!! ล่าทั่วแผ่นดินโจรคีย์บอร์ดทำเพจปลอมลวงโลกปั่นเรื่องเก๋งชนเด็ก แพร่ภาพยายรันทดขอเงินค่าทำศพเต้าข่าวสะเทือนใจสุดๆ ?!?

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

จากกรณี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ปรากฏภาพในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพ เด็กสองขวบถูกรถเก๋งชนตายข้างถนน ประกอบภาพยายตาบอดนั่งพนมมือในบ้านผุพัง นั่งร้องขอความเห็นใจและค่าทำศพ โดยผู้โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าได้รับเรื่องจาก นางเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี อาศัยอยู่ในบ้านไม่มีเลขที่ ในตำบลเสาเล้า อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเหตุหลานชายอายุ 2 ขวบ ถูกรถเก๋งหรูชนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23ก.ย. และยังบอกว่า พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์แจ้งทะเบียนรถและคนขับอย่างชัดเจน ไว้ที่ สน.ท้องที่แล้ว โดยคนขับเป็นข้าราชการในพื้นที่ แต่พบสอบถามไปยัง สน.พื้นที่รับเรื่อง ได้คำตอบว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่สามารถเขียนสำนวนส่งเรื่องได้

 

ทั้งนี้ ยังบรรยายว่า ยายเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี อาศัยบ้านไม่มีเลขที่ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิดใช้ชีวิตอยู่ในบ้านสังกะสีเก่าๆ ตามลำพังกับหลานชาย 1 คน ไม่มีรายได้ มีเพียงน้ำดื่มและอาหารเหลือกินของบ้านข้างๆ พอประทังชีวิตไปวันๆ

 

เลวโดยสันดาน!!! ล่าทั่วแผ่นดินโจรคีย์บอร์ดทำเพจปลอมลวงโลกปั่นเรื่องเก๋งชนเด็ก แพร่ภาพยายรันทดขอเงินค่าทำศพเต้าข่าวสะเทือนใจสุดๆ ?!?

เลวโดยสันดาน!!! ล่าทั่วแผ่นดินโจรคีย์บอร์ดทำเพจปลอมลวงโลกปั่นเรื่องเก๋งชนเด็ก แพร่ภาพยายรันทดขอเงินค่าทำศพเต้าข่าวสะเทือนใจสุดๆ ?!?

เลวโดยสันดาน!!! ล่าทั่วแผ่นดินโจรคีย์บอร์ดทำเพจปลอมลวงโลกปั่นเรื่องเก๋งชนเด็ก แพร่ภาพยายรันทดขอเงินค่าทำศพเต้าข่าวสะเทือนใจสุดๆ ?!?

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมโทรศัพท์ติดต่อ นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอหนองกุงศรี และ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพัน ผกก.สภ.หนองกุงศรี เพื่อสอบถามทราบว่า ตลอดทั้งคืนของวันที่ 25 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ทั้งนายอำเภอและ ผกก.สภ.หนองกุงศรี รับโทรศัพท์แทบสายไหม้ เนื่องจากมีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาสอบถามเป็นจำนวนมาก หลังจากมีการโพสต์และแชร์ต่อในโลกโซเชียล

 

โดย ผกก.สภ.หนองกุงศรี ได้นัดทีมข่าวไปพร้อมกันยังที่ว่าการอำเภอหนองกุงศรี ทันทีที่ถึงที่ว่าการอำเภอหนองกุงศรี นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอหนองกุงศรี และ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพัน ผกก.หนองกุงศรี ได้เชิญ นายสมบูรณ์ ราชโคตร ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน มาค้นหารายชื่อนางเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี ในทะเบียนราษฎร์ หลายครั้งไม่ปรากฏว่า มีตัวตน

 

พร้อมกับได้เชิญตัว นายวิไล ผจงถิ่น กำนันตำบลเสาเล้า และ นายพลรัตน์ ศรีสุพัฒน์ ประธานชมรมผู้พิการตำบลเสาเล้า นายสนอง หมื่นภู ผอ.กองสวัสดิการและสังคม อบต.เสาเล้า ซึ่งดูแลเบี้ยยังชีพของผู้พิการ โดยทั้งหมดยืนยันว่า พื้นที่ตำบลเสาเล้า ไม่ปรากฏตัวตนของ นางเพียร พูสะอาด ไม่ว่าจะเป็นในทะเบียนราษฎร์ หรือในกลุ่มผู้พิการ และในส่วนของ อบต.เสาเล้า โดยทุกคนยืนยันอย่างหนักแน่น

 

นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอหนองกุงศรี กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมคนหนองกุงศรี เพราะเป็นภาพที่ใครเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า ข้าราชการ หรือ ตำรวจทำไมปล่อยปะละเลย-ไม่สนใจ ซึ่งกรณีนี้ถ้าเป็นความจริงจะเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่หลักจากตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็ไม่พบเพราะได้สอบถามไปตำรวจ ผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนราษฎร์ ก็ไม่ปรากฏว่ามีตัวตนจริง

"กรณีนี้ได้สร้างความเสียหายทำให้ประชาชนตื่นตกใจ เป็นการให้ร้ายในการทำงาน ซึ่งได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงขอให้ผู้ที่โพสในเฟซบุ๊กได้พิจารณาก่อนว่า สิ่งที่ทำได้ทำให้จังหวัดกาฬสินธุ์เสียหาย เหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ซึ่งทางอำเภอก็จะร่วมติดตามหาตัวนักเลงคีย์บอดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้"

 

ด้าน พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพัน ผกก.สภ.หนองกุงศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถูกผู้ใหญ่ตำหนิและให้ชี้แจงเป็นการด่วน เพราะหากมีเรื่องนี้จริงถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิเสธนั้นจะต้องถูกลงโทษ แต่ภายหลังตรวจสอบตลอดทั้งคืน ซึ่งได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้นำหมู่บ้าน ตำบลเสาเล้าทุกกลุ่มองค์กรยืนยันว่า คุณยายเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี ไม่มีตัวตนจริง เพราะถ้ามีจะต้องได้รับการดูแล ไม่ว่าจะเป็นเงินผู้พิการ จะต้องไม่ถูกทอดทิ้งอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นเช่นนี้

 

“ผมได้ส่งสายสืบติดตามนักเลงคีย์บอดมาดำเนินคดี ซึ่งโทษความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท เพราะเป็นกรณีที่สร้างความวุ่นวายในสังคมให้ประชาชนตื่นตระหนกจากการสร้างข่าวที่เป็นเท็จ”

 

พ.ต.อ.พุฒินันท์ กล่าวว่า จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูล และ บุคคลที่ไม่หวังดีโดยเฉพาะนักเลงคีย์บอด ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามมาเพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้ทราบว่า เฟสบุ๊ค ดังกล่าวก็ได้ปิดตัวหายไปแล้วภายหลังจากที่มีการนำภาพนี้มาแชร์ในโลกโซเชียล