ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรมต.กำลังอ่วมกับคดีความที่รุมกระหน่ำตัวถึง 15 คดี พร้อมกับต้องเจอกรณีชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวอีกเป็นเงินกว่า 3 หมื่น 5 พันล้านบาท บวกกับบรรดาคนในพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.ต่างก็อยู่ในอาการไม่ผิดแผก แตกต่างไปจากกัน คือล้วนแล้วแต่มีคดีติดตัวจนลำบากที่จะกระดิกตัวเคลื่อนไหวอะไรได้ในช่วงนี้

     แต่อีกด้านหนึ่ง คือรัฐบาลไม่ใช่ว่าจะสบายตัวเท่าไหร่นัก เพราะก็ต้องเจอกับเรื่องร้องเรียน และการแฉกลับแบบอาการน่าเป็นห่วงเช่นกัน และแถมข่าวที่กำลังโดนแฉรายวันก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ เสียด้วย กับกรณีภรรยา และลูกชายของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกรมต.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกว่าถูกถามเรื่องนี้เมื่อไหร่ นายกรมต.เป็นออกอาการฉุนทุกครั้งไปว่า ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเค้า ถึงจะเป็นน้องก็คนละคนกันต้องไปถามกระทรวงกลาโหมและปปช.ที่ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อยู่

 

     ส่วนอีกคนที่กำลังเจอการตรวจสอบ คือรมว.พาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ ที่โดน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยไปยื่นเรื่องให้สตง.ตรวจสอบทรัพย์สินของนางอภิรดี ว่ามีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ เพราะไปพบว่านางอภิรดี ได้รับทรัพย์สินเป็นเครื่องประดับหลายรายการที่ระบุว่าเป็นของขวัญจากพี่ และมีรายได้ต่อปีหลายล้านบาท แต่ในบัญชีแจ้งต่อคณะกรรมการปปช.ไม่มีการแจ้งรายได้ จึงขอให้ตรวจสอบ และงานนี้เหมือนเป็นการเอาคืนนางอภิรดี เพราะเธอก็คือคนที่เซ็นต์รับรองสรุปเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวในกรณีจีทูจีกับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และคณะนั่นเอง

     เรียกว่ามาถึงวันนี้ สถานการณ์ทางการเมืองกำลังเดินไปสู่จุดของการเปิดหน้าชน สู้กันแบบไม่ถอย คือต่อให้รัฐบาล และคสช.จะมีแต้มต่อฝ่ายตรงข้าม กับเสถียรภาพและความมั่นคง รวมไปถึงความไว้วางใจของประชาชนที่มอบให้ก็ตาม แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจว่าเรื่องแฉๆ หรือ กระบวนการตรวจสอบเอาคืนจะจบแค่เพียงเท่านี้ รับประกันงานนี้ยังมีตามมาอีกชุดใหญ่แน่