- 02 ต.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
สืบจากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารรายละเอียดการคำนวณราคากลาง (ราคาอ้างอิง) การจ้างการรับขนคนโดยสารทางอากาศโดยเครื่องบินพาณิชย์ ณ เมืองฮอนโนลูลู มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. - 2ต.ค. 2559 โดยเอกสารระบุว่ามีค่าจ้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,953,800 บาท และต่อมามีการกล่าวอ้างว่าเอกสารค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับคณะของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในการเดินทางไปประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา อย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN-US Defense Informal Meeting) ระหว่าง 29 ก.ย.- 1 ต.ค.59 ณ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา และมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า คณะของพล.อ.ประวิตรที่เดินทางไปประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-รมว.กลาโหม สหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้เดินทางทั้งหมด 38 คน จากเดิมมี 40 คน แต่ติดภารกิจ 2 คน โดยการเดินทางเป็นการเช่าเหมาลำเครื่องบินของการบินไทยแบบไป-กลับมีค่าใช้จ่ายรายละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 19 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเมื่อลงจากเครื่อง เช่น ค่าที่พัก อาหาร โดยคณะของพล.อ.ประวิตรใช้เวลาในการเดินทางไป 1 วัน เข้าร่วมประชุม 2 วัน และเดินทางกลับอีก 1 วัน โดยไม่มีการแวะสถานที่อื่นแต่อย่างใด
ขณะที่ นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า “สี่อเลือกข้าง 2 ราย กำลังโหมข่าวค่าใช้จ่ายของคณะกลาโหมไทยไปประชุม รมว กลาโหมอาเชี่ยน-อเมริกาที่อเมริกา-ฮาวาย หวังหวดลุงป้อมให้อยู่หมัด คงหงายเงิบหน้าแหก ค่าใช้จ่ายรัฐบาลจ่ายแก่การบินไทยตามระเบียบราชการ รอฟังทีมกลาโหมเขาแจงก็แล้วกัน เรื่องดีๆที่ลุงป้อมสู้ตรากตรำไปทางไกลทำงานให้ชาติ ไม่รายงานสักแอะ เส้นทางบินที่ไปประชุม เวลา จำนวนคณะ มันไม่ใช่เดินทางปกตินะจ๊ะ”
ก่อนหน้านั้น พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงผลการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน-รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา ว่า นายแอสตัส บอลด์วิน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้กล่าวสนับสนุนอาเซียนในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และการกระชับความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งทุกประเทศต้องร่วมกันเสริมความมั่นคงของภูมิภาค ด้วยการเพิ่มพูนเครือข่าย ร่วมแก้ไขข้อขัดแย้ง เพื่อการคงไว้ซึ่งเสรีภาพและอิสรภาพในการเดินเรือ โดยสหรัฐพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่องทั้งทวิภาคี ไตรภาคีและพหุภาคี เพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย จำเป็นต้องร่วมส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถด้านข่าวกรอง การรักษากฎหมาย การตอบโต้การโฆษณาชวนเชื่อ การสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งการเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดน ความเสมอภาคและความแตกต่าง ส่วนปัญหาทะเลจีนใต้ สหรัฐให้ความสำคัญกับหลักเกณฑ์และกฎหมายสากล การจัดทำข้อตกลงร่วม การแก้ปัญหาผ่านช่องทางการทูตและจัดตั้งเครือข่ายร่วมรักษาความมั่นคง พร้อมทั้งต้องการให้จีนเข้ามามีส่วนร่วม
“ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของไทย ถึงความตั้งใจจริงในความคืบหน้าแก้ปัญหาทั้งการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมายและการแก้ปัญหาการบินพลเรือน พร้อมทั้งยินดีจะคงความร่วมมือ และสานต่อความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อไทย ซึ่งโอกาสนี้ พล.อ.ประวิตรได้เชิญ ผบ.กองกำลังภาคพื้นแปซิฟิก มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป”