มาอีกระลอก!!! อุตุฯเตือน ฝนกระหน่ำยาว ถึง 7 ต.ค. - คนกรุงเตรียมรับมืออีกวันนี้ตั้งแต่บ่าย ตกหนักแน่นอน!!!

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://deep.tnews.co.th/

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. จากการตรวจสอบสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักได้ในระยะนี้ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไปจนถึงวันที่ 7 ต.ค. จะมีความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และประเทศลาว ดันให้ร่องมรสุมเลื่อนต่ำลงมาพาดผ่านในบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนบริเวณภาคอีสานตอนบน จะมีฝนลดลง อากาศจะเริ่มเย็นลงในช่วงเช้าๆ

จากภาพถ่ายดาวเทียมแสดงกลุ่มเมฆที่ปกคลุมเหนือท้องฟ้าเมืองไทยในเช้าวันนี้ โดยกลุ่มเมฆส่วนใหญ่ยังคงปกคลุมบริเวณฝั่งตะวันตก และตอนกลางของประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆฝนฟ้าคะนอง ปกคลุมในบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร แพร่ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ราชบุรี ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่

มาอีกระลอก!!! อุตุฯเตือน ฝนกระหน่ำยาว ถึง 7 ต.ค. - คนกรุงเตรียมรับมืออีกวันนี้ตั้งแต่บ่าย ตกหนักแน่นอน!!!

ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนสะสมต่อจากนี้ พบว่าพื้นที่สีเขียว ที่มีกลุ่มฝนสะสมส่วนใหญ่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง และฝั่งตะวันออก ส่วนภาคใต้ ยังเน้นตกฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาค สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงบ่ายถึงค่ำ

นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์พายุอีกหนึ่งลูกที่น่าจับตามอง เนื่องจากพบว่ามีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นพายุได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะมีทิศทางมุ่งหน้าสู่เกาะไหหลำของจีน และถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ จะมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยได้ แต่การคาดการณ์ล่าสุดพายุลูกนี้มีการเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย โดยจะเบี่ยงขึ้นไปทางเกาะไต้หวัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าในระยะนี้มีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมามาก มีความเป็นไปได้ว่าจะดันให้พายุนี้เลื่อนต่ำลงมายังบริเวณเดิมได้ ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

สำหรับสถานการณ์พายุ "ชบา" (CHABA) ขณะนี้มีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางไปอยู่ที่ 101 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นระดับพายุโซนร้อน โดยศูนย์กลางอยู่ทางด้านใต้ของประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะขึ้นฝั่งทางในช่วงเช้าวันพุธ หลังจากนั้นจะเคลื่อนที่ต่อไปทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะปกคลุมญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนกลางจนถึงตอนล่าง ก่อนที่จะเคลื่อนลงทะเลฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น และสลายตัวในบริเวณดังกล่าวช่วงวันที่ศุกร์ที่ 7 ต.ค.นี้ ดังนั้นใครจะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง แต่พายุลูกนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย