ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     นับตั้งแต่เกิดกรณีปัญหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรมต.ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในกรณีภรรยานำชื่อตนเองไปตั้งชื่อฝาย  และยังใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการเดินทางอีกด้วย ยังไม่จบเท่านี้ ยังมีกรณีลูกชาย คือ นายปฐมพล จันทร์โอชา ที่เปิดบริษัทในกองทัพ และยังได้รับการว่าจ้างรับเหมางานก่อสร้างภายในโครงการของกองทัพเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท จนนำไปสู่การตรวจสอบและทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ลามไปถึงยังตัวนายกรมต.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     แต่ทั้งนี้กระแสโจมตีคนรอบข้างของนายกรมต. ยังไม่จบเท่านี้ เพราะล่าสุดก็เกิดกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรมต.และรมว.กลาโหม และคณะที่เดินทางไปร่วมประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน สหรัฐ ที่ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ด้วยวิธีการเช่าเหมาลำบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน ในวงเงิน 21 ล้านบาท นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคม และตามมาด้วยเสียงเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อทั้งหมดในคณะ จนกระทั่งลามไปสู่การตามแฉเล่นงานคนสนิทของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และต่อด้วยเรื่องราคาค่าอาหาร 6 แสนบาท เรียกว่าปัญหาล่าสุดนี้กำลังก่อให้เกิดกระแสโจมตีพล.อ.ประวิตรอย่างหนัก

     และดูท่าจะหนักกว่ากระแสโจมตีในครั้งแรกในกรณีพล.อ.ปรีชา เสียด้วยซ้ำ เพราะทุกข้อมูลได้ถูกต่อยอดเผยแพร่ออกไป ทั้งถูก ทั้งผิด แต่ทุกอย้างก็เพื่อมุ่งโจมตีไม่เฉพาะตัวบุคคล แต่เป้าหมายสำคัญ ก็คือ รัฐบาล และ คสช.โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวนายกรมต.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามหาช่องโจมตีมานาน มาถึงวันนี้ถือว่า การโจมตีของฝ่ายต่อต้านครั้งนี้กำลังสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง