- 07 ต.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
"ม.อ.โพล"เผยผลสำรวจ ผลกระทบ วิกฤตราคายางใต้ อยู่ในระดับ “มาก” ถึงร้อยละ 40 เช่นเดียวกับ"หนี้สิน"ภาคครัวเรือน ถีบตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าฉุด"ความสุข"ของชาวบ้าน ให้ลดลงจากก่อนวิกฤติราคายาง ถึงร้อยละ 32 ขณะที่ชาวสวนยางตรัง โชคดีได้รับผลกระทบน้อยสุด
คณะทำงานการสำรวจความคิดเห็น ม.อ.โพล ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวสวนยางภาคใต้ จากผลกระทบวิกฤตราคายาง การปรับตัว และ ความต้องการเร่งด่วนของชาวสวนยางภาคใต้โ ดยสอบถามชาวสวนยางในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ช่วงเดือนกันยายน 2559 เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลเพื่อวางแผนการพัฒนา บริหารจัดการ และ แก้ปัญหาให้กับประชาชนชาวสวนยางภาคใต้ ซึ่งพบว่า วิกฤติดังกล่าวมีผลกระทบต่อครอบครัวชาวสวนยางในระดับมาก ร้อยละ 40.8 ส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอ กระทบการศึกษาบุตร และมีหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดยะลามีผลกระทบต่อครอบครัวมากที่สุด ส่วนจังหวัดตรังมีผลกระทบน้อยที่สุด และเกิดผลกระทบต่อชุมชนสังคมโดยมีโจรชุกชุม การลักเล็กขโมยน้อยเพิ่มขึ้น พึ่งพาช่วยเหลือกันน้อยลง และมีการย้ายถิ่นเข้าเมืองเพิ่มขึ้น
ด้านหนี้สินมีจำนวนครัวเรือนชาวสวนยางที่มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากก่อนเกิดวิกฤตโดยจังหวัดที่มีร้อยละของจำนวนครัวเรือนที่มีภาระหนี้สินมากที่สุดทั้งก่อนและขณะวิกฤติราคายางคือจังหวัดยะลา ส่วนจังหวัดที่อัตราการเพิ่มของหนี้สินสูงที่สุด คือ จังหวัดภูเก็ต ส่วนชุมพรมีหนี้สินน้อยที่สุด วิกฤตดังกล่าว ทำให้ชาวสวนยางภาคใต้บางส่วนต้องปรับตัวโดยประหยัดค่าใช้จ่าย ร้อยละ 67เปลี่ยนไปประกอบอาชีพที่ไม่ใช่อาชีพการเกษตร ร้อยละ 3.0
นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า ชาวสวนยางภาคใต้ มีความสุขลดลงจากก่อนวิกฤติราคายาง ประมาณร้อยละ 20 จังหวัดที่ประชาชนมีความสุขในเปอร์เซนต์ที่มากที่สุดภายใต้วิกฤติราคายางในปัจจุบันคือ จังหวัดตรัง ส่วนความสุขน้อยที่สุด คือ จังหวัดภูเก็ต และสงขลา โดยชาวสวนยางจังหวัดสงขลามีความสุขลดลงจากก่อนวิกฤติราคายางมากที่สุดถึงร้อยละ 32
ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่า ความเร่งด่วนที่ต้องการจากภาครัฐ คือต้องการให้ส่งเสริมอาชีพเสริมภาคเกษตร สนับสนุนเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพเสริม ส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร พักชำระหนี้ที่เกิดจากการลงทุนทำสวนยาง หาแนวทางลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ