นักเลือกตั้งรอก่อน!!! โพลคนไทย 61.07%  ยังเชื่อใจรัฐบาล "บิ๊กตู่" คะแนนนิยมตัวผู้นำซื่อสัตย์ จงรักภักดี ยังพุ่งไม่หยุด แต่ยังกังวลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

   “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ หัวข้อ ”ประชาชน “เชื่อใจ” และ “ไม่เชื่อ” อะไร? ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา “  สรุปผลได้ดังนี้  

 

       ประเด็น 1. โดยภาพรวมแล้วประชาชน “เชื่อใจ” รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มากน้อยเพียงใด?  พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ค่อนข้างเชื่อใจ  คิดเป็นสัดส่วน   40.56%   เพราะ รัฐบาลมุ่งมั่นในการบริหารประเทศ ตั้งใจแก้ปัญหาบ้านเมือง มีคณะทำงานที่มีความรู้ความสามารถ เชื่อใจในตัวนายกฯ มีความเด็ดขาด ฯลฯ อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อใจ  คิดเป็น  24.01% เพราะ สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ดีขึ้น มีแต่ความขัดแย้งและหวังผลประโยชน์ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้ ประชาชนเดือดร้อน ค่าครองชีพสูง ฯลฯ อันดับ 3 เชื่อใจ  คิดเป็น  20.51% เพราะ มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น จัดระเบียบสังคม รัฐบาลมีเสถียรภาพ กำลังจะมีการเลือกตั้ง ฯลฯ อันดับ 4 ไม่เชื่อใจ 14.92% เพราะ เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถตรวจสอบได้มีกระแสข่าวเชิงลบ เช่น การใช้ งบประมาณต่าง ๆ ฯลฯ

     ประเด็นที่ 2   สิ่งที่ประชาชน “เชื่อใจ” รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คือ อันดับ 1 ตัวนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดเป็นสัดส่วน  74.36%  เพราะ มีความเป็นผู้นำซื่อสัตย์  จงรักภักดีพูดจริงทำจริง  มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและส่วนรวม อันดับ 2 การแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น จัดระเบียบสังคม  คิดเป็น  72.57% เพราะ มีผลงานให้เห็นต่อเนื่อง เห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน เจ้าหน้าที่เคร่งครัด ปัญหาที่สะสมมานานถูกแก้ไข มีอำนาจพิเศษ ฯลฯ อันดับ 3 เป็นรัฐบาลทหารที่ไม่มีนักการเมืองมาร่วม  คิดเป็น  61.85% เพราะไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำงานสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความเด็ดขาด ทำงานเพื่อ ประเทศชาติและประชาชน ฯลฯ

     ประเด็นที่ 3. สิ่งที่ประชาชน “ไม่เชื่อใจ” รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คือ อันดับ 1 ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้  คิดเป็นสัดส่วน  78.09% เพราะ ธุรกิจการค้า การลงทุนซบเซา ประชาชนยังมีความเป็นอยู่ลำบาก ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ข้าวของแพง ฯลฯ อันดับ 2 การสร้างความปรองดองในบ้านเมือง  คิดเป็น  67.60% เพราะ เป็นปัญหาที่สะสมมานาน แก้ไขได้ยาก ยังมีความขัดแย้งให้เห็น มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน  มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฯลฯ    อันดับ 3 ความซื่อสัตย์สุจริต คิดเป็น65.73%  เพราะ มีข่าวให้เห็นมากขึ้นเกี่ยวกับการทุจริต การใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่เหมาะสม เช่น โครงการอุทยาน ราชภักดิ์ ทริปฮาวาย ฯลฯ