ไม่ดูตาม้า ตาเรือ!!!หนุ่มเขมรเสนอขายพาสปอร์ตปลอมต่อหน้า ต่อหน้า ตม.ไทย งานนี้ไม่รอด

9 ต.ค. 59  ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสระแก้ว ร่วมมือกับทหารร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา นำกำลังชุดปฏิบัติการข่าวร้อย ทพ.1201ฯ สนธิกำลังร่วมกันออกทำการสกัดตรวจค้นรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย กทม.-ตลาดโรงเกลือ ซึ่งขับออกมาจาก กทม. มุ่งหน้าจะไปส่งผู้โดยสารปลายทางที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยสามารถดักสกัดได้บริเวณทางแยกหน้าสถานีรถไฟอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นได้ร่วมกันขึ้นไปตรวจค้นบนรถยนต์โดยสารฯ ซึ่งมี ด.ต.หญิง พัชรี คิม ซึ่งเป็น จนท.ตม.จว.สระแก้ว รออยู่บนรถยนต์โดยสารปรับอากาศฯ แล้วชี้ให้จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว ทำการตรวจค้นชายวัยกลางคนชาวเขมร ทราบว่าชื่อนายไน สุวัน อายุ 50 ปี ซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร จนท.จึงแสดงตัวขอตรวจค้นและพบพาสปอร์ตกัมพูชาปลอม จำนวน 2 เล่ม และบอเดอร์พาส (หนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา) บริเวณรูปในบอเดอร์พาสมีร่องรอยการเปลี่ยนรูปในบอเดอร์พาส ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย จึงควบคุมตัวนายไน สุวัน พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนที่ ห้องสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว

สืบเนื่องจาก ด.ต.พัชรี นั่งรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศคันดังกล่าว จาก กทม.เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ ที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ขณะนั้นพบนายไน สุวัน ชาวกัมพูชา นำพาสปอร์ตกัมพูชาปลอมมาเสนอขายให้กับแรงงานชาวกัมพูชาที่นั่งรถยนต์โดยสารมาด้วย ในราคาเล่มละ 500 บาท ซึ่ง ด.ต.พัชรี  เห็นพฤติกรรมจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งปลอมและค้าพาสปอร์ตปลอม จึงใช้โทรศัพท์มือถือส่งไลน์แจ้ง ตม.จว.สระแก้ว ทราบและนำกำลังมาดักสกัดรถยนต์โดยสารฯ คันดังกล่าว และสามารถจับกุมได้ในที่สุด

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายไน สุวัน อ้างว่าพาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของเพื่อนฝากไว้แต่ จนท.ไม่เชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมในการติดต่อเพื่อขายพาสปอร์ตปลอม อยู่ในสายตาของ ด.ต.พัชรี ตลอดเวลา จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งให้ สว.สืบสวน ตม.จว.สระแก้ว สอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ จากการจับกุมแก๊งปลอมพาสปอร์ตกัมพูชา จนท.ตม.จว.สระแก้ว ได้แจ้งไปยัง ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา ซึ่งทาง ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา ต่างขอบคุณ จนท.ตม.ไทย ที่สามารถจับกุมแก๊งปลอมพาสปอร์ตกัมพูชา ได้เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้แรงงานชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งเตรียมส่ง จนท.ตม.ปอยเปต มาร่วมสอบสวนเพื่อหาเบาะแสขบวนการปลอมพาสปอร์ตกัมพูชาต่อไป