ประธานาธิบดีอิหร่านเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมสานความร่วมมือในทุกมิติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ก่อนร่วมหารือทวิภาคี สำหรับการเยือนครั้งนี้นับเป็นการเยือนไทยระดับประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงปีที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในระดับต่างๆอย่างต่อเนื่อง เช่น การเยือนไทยของรองประธานาธิบดีอิหร่านและรมว.ต่างประเทศอิหร่าน รวมถึง การเยือนอิหร่านของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ

โดยพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการหารือครั้งนี้ว่า นายกฯกล่าวต้อนรับประธานาธิบดีอิหร่าน และขอบคุณที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ACD ครั้งที่ 2 ด้วยตนเอง พร้อมชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของอิหร่านในกรอบ ACD ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นและชื่นชมการเป็นเจ้าภาพการประชุมฯ ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทย-อิหร่านมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน

 

พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับอิหร่านในทุกสาขา ซึ่งประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านเองก็ให้ความสำคัญกับการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ โดยนำบุคคลสำคัญของฝ่ายอิหร่านเดินทางร่วมคณะด้วย และเชื่อมั่นว่า การเยือนไทยครั้งนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์หน้าใหม่กับไทยในทุกด้าน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังเห็นว่า การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและระหว่างภาคเอกชนของสองประเทศช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิหร่านคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายสาขา อาทิ ด้านการค้า ท่องเที่ยว พลังงาน วัฒนธรรม การเกษตรและการประมง และอิหร่านพร้อมจะสานสัมพันธ์กับประเทศไทยทุกๆด้าน

ส่วนด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าพล.ท.วีรชนกล่าวว่า ไทยยินดีที่มีการลงนามความตกลงทางการค้าและส่งคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเยือนอิหร่าน เพื่อหาลู่ทางสร้างหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยวันที่ 10 ตุลาคม กระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ครั้งที่ 1 เพื่อหารือและเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าและกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ด้านการเงินการธนาคาร ประธานาธิบดีอิหร่านประสงค์ให้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างธนาคารของสองประเทศ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของกิจกรรมทางธุรกิจและการค้าการลงทุนระหว่างภาคเอกชนของ2ประเทศ ซึ่งนายกฯสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือรายละเอียดต่อไป เช่นเดียวกับ ด้านพลังงานสองฝ่ายพร้อมรื้อฟื้นการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและก๊าซในอิหร่าน ซึ่งอิหร่านตอบรับความต้องการของไทยที่จะฟื้นฟูความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบบันทึกความเข้าใจด้านปิโตรเลียมระหว่างกระทรวงพลังงานไทยกับกระทรวงปิโตรเลียมอิหร่านด้วย

ด้านการเกษตร ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวชื่นชม ผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้และอาหารแปรรูปของไทยว่ามีคุณภาพดี ในขณะที่ผลไม้อิหร่านก็มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอินทผาลัมและแอปเปิ้ล ซึ่งสองประเทศสามารถส่งเสริมการนำเข้าผลไม้เหล่านี้ระหว่างกันได้ นอกจากนี้ อิหร่านยังแสดงความประสงค์จะซื้อข้าวจากไทยรอบใหม่ ซึ่งนายกฯสอบถามความคืบหน้าการซื้อข้าวจากไทยตามที่เคยลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อข้าว ซึ่งอิหร่านกล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอิหร่านที่ใกล้เสร็จแล้ว โดยอิหร่านจะช่วยเร่งรัดเรื่องนี้ต่อไป

พล.ท.วีรชนกล่าวอีกว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ปีนี้ สายการบิน Thai AirAsia X และการบินไทยเปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-กรุงเตหะราน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น โดยนายกฯเสนอให้สองประเทศพิจารณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันแบบ Package เพื่อสร้างแรงจูงใจและเพิ่มมูลค่าในการท่องเที่ยวระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกฯยังแสดงความยินดีต่อการที่อิหร่านได้เข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia – TAC) และเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมสร้างให้สนธิสัญญาดังกล่าวเป็นแนวทางส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค