เช็คด่วนเลย !!! 7จังหวัด ภาคกลางเตรียมรับมือ "เขื่อนเจ้าพระยา" พร่องน้ำ ....เมืองนนท์ไม่ต้องตกใจ แค่ข่าวลือ (ติดตามรายละเอียด)

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยคาดหมายว่าในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะมี

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยคาดหมายว่าในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะมีน้ำเข้าเขื่อนเจ้าพระยา 2,800 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือเขื่อนและน้ำท้ายเขื่อน ซึ่งจะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 25-75 ซม.

  ทั้งนี้รัฐบาลจึงขอให้ผู้ว่าฯ 7 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา เฝ้าระวังและเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้น โดยให้แต่ละจังหวัดประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งให้รีบดำเนินการโดยด่วน รวมทั้งบริษัท ห้างร้าน แพร้านอาหาร ที่ประกอบกิจการริมแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเตรียมนำทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าน้ำได้ล้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้อาจเกิดน้ำท่วม ล่าสุด นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง กรมชลประทานได้เฝ้าระวังไม่ให้เกิดกรณีน้ำล้นเขื่อนโดยเพิ่มการระบายพร่องน้ำ 660 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 57 ล้าน ลบ.ม. ต่อวันผ่านเขื่อนพระราม 6 ในปริมาณ 651 ลบ.ม. ต่อวินาที จะไม่ล้นคันกั้นน้ำ

          รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า กรมชลประทาน กำลังทำหนังสื่อชี้แจงสื่อมวลชน รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย จะประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ หรือระบบทางไกลชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อ กทม. จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี มีเฉพาะพื้นที่นอกคันและริมตลิ่ง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้น ตั้งเป้าว่าจะระบายเขื่อนป่าสักฯ 60 ล้านลบ.ม.ต่อวัน แต่ถ้าน้ำเข้าเขื่อนลดลงก็สามารถลดปริมาณลงได้

  นายทองเปลว ฝากไปถึงประชาชนด้วยว่า ยืนยันไม่กระทบ อย่าทำให้แตกตื่น เขื่อนป่าสักฯจะไม่ล้น และเพิ่มการระบายไม่ให้ล้น ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำ มาถึง อ.บางไทร ที่ระดับ 2,300-2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งต้องมีปริมาณน้ำเกิน 3,500 ลบ.ม. ต่อวินาทีถึงจะกระทบ กทม. และปริมณฑล การเพิ่มระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,300 ลบ.ม. ต่อวินาที ยังไม่ผันน้ำเข้าทุ่ง กรมชลฯ ติดตามสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง ขณะนี้น้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยายังคุมได้