- 10 ต.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
แม้ว่าในวันนี้ (11 ต.ค.) มีกำหนดการต้องไปศาลอาญาเพื่อฟังคำวินิจฉัยกรณีอัยการสูงสุด กล่าวหากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว แต่ล่าสุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโจมตีการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในลักษณะก่อเกิดให้เกิดความเกลียดชังในหมู่มวลชนคนเสื้อแดง อย่างการเฟสบุ๊กไลฟ์ ( 10 ต.ค.) ที่ระบุว่า ลักษณะการทำงานรัฐบาลในการประกาศภารกิจสร้างประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีการใช้อำนาจแบบเผด็จการหลงจู๊ที่จะเกิดผลกระทบ เพราะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในตัวผู้มีอำนาจ ส่วนการเน้นสร้างความมั่นคงภายในประเทศก็นำซึ่งความมั่งคั่งที่ล้มเหลวสิ้นเชิง
“ แม้มีโพลเชียร์รัฐบาลทุกครั้ง แต่ด้านเศรษฐกิจเป็นภาพสะท้อนปัญหาที่ต้องแก้ไข สิ่งสำคัญประเทศไทยผ่านผู้นำมีอำนาจแบบหลงจู๊และเผด็จการมาหลายคน ส่วนวันนี้การใช้อำนาจกลับร้ายแรงกว่า เพราะได้รวมเอาอำนาจแบบเผด็จการมาผสมกับหลงจู๊ โดยมีอำนาจพิเศษเป็นเครื่องมือบังคับ ล้วงลูก แทรกแซงหน่วยงานต่างๆ ให้ทำตามความต้องการของผู้มีอำนาจ จึงเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของแต่ละองค์กรให้ยับเยินที่สุด”
นายจตุพร กล่าวอีกว่า แม้รัฐบาลจะมุ่งปราบปรามการทุจริต แต่กลับเลือกใช้องค์กรตรวจสอบ ปราบปรามอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของประชาชนที่คลางแคลงใจการทำหน้าที่ไม่เสมอภาคกันทุกฝ่าย เพ ราะมุ่งเน้นให้องค์กรหรือหน่วยงานไปจัดการ ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม แล้วเพิกเฉยไม่ตรวจสอบฝ่ายของตัวเอง ผลการใช้อำนาจแบบเผด็จการหลงจู๊ จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อข้าราชการคนใดแสดงความเห็นไม่ถูกใจผู้มีอำนาจต้องมีอันเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่นกรณีล้วงลูก แทรกแซงเล่นงานรองอธิบดีอัยการสูงสุด หรือผู้ว่าราชการจังหวัดจนต้องเขียนกลอนศรีปราชญ์ระบายความในใจ และการถอนประกันตัว ซึ่งมีแนวโน้มถูกแทรกแซง สั่งการให้เกิดผลในด้านใดด้านหนึ่ง ตามความต้องการของผู้มีอำนาจเช่นกัน
“การใช้อำนาจล้วงลูก เป็นเสมือนการพยายามสร้างรัฐที่แตะต้องไม่ได้ สร้างรัฐให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่ไม่ใช่ การแก้ไขปัญหาชาติก็คิดแต่เข้าข้างตัวเอง ดังนั้น ผู้มีอำนาจใช้อำนาจพิเศษล้วงลูกแทรกแซงเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นจนไม่กล้าจะแสดงออก ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่เปิดกว้าง เพราะการเปิดกว้างจะทำให้เกิดการค้นหาความจริง จนประชาชนรับรู้และยอมรับอย่างมีเหตุผล ย่อมทำให้บรรยากาศสังคมและการเมืองน่าเชื่อถือ ในทางตรงข้ามการจะมีอำนาจต้องคิดถึงชาติบ้านเมืองให้ยิ่งใหญ่กว่าการใช้อำนาจ และประเทศต้องใหญ่กว่าครอบครัวของตัวเอง ดังนั้นสัจธรรมการใช้อำนาจต้องคิดถึงวันที่ไม่มีอำนาจด้วย เพราะการแทรกแซง ล้วงลูกทุกองค์กรของรัฐนั้น ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย นอกจากเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือให้ยับเยินเท่านั้น"