อุตรดิตถ์ เปิดให้ประชาชนกราบสักการะ"ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง"ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ถวายเป็นพุทธบูชาวัดพระแท่นศิลาอาสน์

เมื่อวันที่16ตุลาคม2559 ที่วิหารหลวงวัดพระแท่นศิลาอาสน์พระอารามหลวงชั้นตรี ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์พระวินัยสาทรเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้นำ"ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง"ลักษณะพุ่มออกดอกเป็นช่อทำจากทองคำแท้99.99%และเงินแท้สูงประมาณ19เซนติเมตรลักษณะเป็นพุ่มพร้อมออกดอกลักษณะดอกเป็นช่อคล้ายดอกพุตตานบรรจุอยู่ภายในกระจกใสสี่เหลี่ยมตั้งที่โต๊ะหมู่บูชาหน้าพระแท่นศิลาอาสน์ส่วนที่บริเวณฐานของต้นไม้เงินต้นไม้ทองมีอักษรพระนามย่อ ภปร อยู่ที่ฐานของต้นไม้พร้อมข้อความว่า"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรพสกนิกรภาคเหนือปีพ.ศ.2501" เป็นต้นไม้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงถวายบูชาพระแท่นศิลาอาสน์เมื่อครั้งทรงเสด็จมาสักการะพระแท่นศิลาอาสน์และทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์เมื่อวันที่17มีนาคม2501หรือเมื่อ48ปีที่ผ่านมาทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสกราบสักการะเพื่อร่วมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้นับเป็นครั้งแรกที่ทางวัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้นำออกมาให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะพร้อมได้ชมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระวินัยสาทรเจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้หยิบหนังสือเสด็จเยี่ยมราษฎรพื้นที่ภาคเหนือระหว่างวันที่27กุมภาพันธ์ถึง17มีนาคมพ.ศ.2501ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดสุดท้ายก่อนเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคใต้หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์แล้วเสด็จเยี่ยมค่ายทหารพิชัยดาบหักราษฎรอำเภอลับแลและค่ายทหารยานเกราะร.พัน9จากนั้นเสด็จไปทรงสักการะพระแท่นศิลาอาสน์และทอดพระเนตรกิจการโรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์เพื่อให้ราษฎรได้เฝ้าทูลละอองทุลีพระบาทโดยทั่วกันเป็นหนังสือที่สำนักพระราชวังจัดทำแจกให้กับหัวเมืองฝ่ายเหนือเก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนทั้งสิ้น5,000เล่ม

พระวินัยสาทรกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองเพื่อเป็นพุทธบูชาพระแท่นศิลาอาสน์จากนั้นทรงห่มผ้าโดยรอบฐานพระแท่นศิลาอาสน์ศิลาแลงมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง8ฟุตยาวประมาณ10ฟุตสูง3ฟุตฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบและมีพระมณฑปซึ่งเป็นศิลปะเชียงแสนครอบอยู่ภายในพระวิหารแห่งนี้

พระวินัยสาทรกล่าวด้วยว่าในระหว่างที่พระองค์เสด็จพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์นั้นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยนั้นกราบทูลขอเสาหลักเมืองประจำจังหวัดอุตรดิตถ์พระองค์ทรงดำรัสว่า"มีพระแท่นศิลาอาสน์แล้วพระแท่นศิลาอาสน์เป็นตราสัญลักษณ์ของจังหวัดพระแท่นศิลาอาสน์ยังเป็นหลักเมืองหลักใจให้กับประชาชนในพื้นที่"ก่อนเสด็จกลับราษฎรในพื้นที่อำเภอลับแลได้ถวายเต่าเงินเต่าทองพร้อมพระเครื่องกรุทุ่งยั้งให้กับพระองค์ภาพนี้ได้ถูกนำมาเขียนติดไว้ที่ผนังวิหารพระแท่นเพื่อรำลึกถึงพระองค์ในคราวเสด็จวัดพระแท่นศิลาอาสน์

"เพื่อน้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ วันนี้ทางวัดได้นำ"ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง"ตั้งที่โต๊ะหมู่บูชาหน้าพระแท่นศิลาอาสน์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปกราบไหว้สักการะและทางวัดได้จัดพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมแด่พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศที่วิหารหลวงวัดพระแท่นศิลาอาสน์โดยประชาชนสามารถเข้าร่วมในพิธีและรับฟังการสวดพระอภิธรรมทุกวันเป็นเวลา1เดือน"พระวินัยสาทรกล่าว