ส่งเสริมคนดี สกัดคนชั่ว!!! กกต.ยึดพระบรมราโชวาท กาง5 ยุทธศาสตร์จัดเลือกตั้งสุจริต สนองพระยุคลบาท

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า กกต.ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่งเสริมความมีเสถียรภาพทางการเมืองและการใช้อำนาจอันชอบธรรม โดยได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองแนวพระยุคลบาท ในตอนหนึ่งว่า “การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ ” ดังนั้นการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของ กกต. จึงเน้นการกลั่นกรองบุคคลก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ ” ดังนั้นการจัดทำ แผนยุทธศาสตร์ของ กกต. จึงเน้นการกลั่นกรองบุคคลก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้เข้าไปใช้อำนาจในการบริหารและการตรากฎหมาย จึงได้กำหนด5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

1.ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง โดยร่วมมือกับเครือข่ายศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.)เครือข่ายรด.อาสา เครือข่ายลูกเสือ กกต. ในการจัดอบรมและเตรียมกลไกในการสนับสนุนการทำงานของ กกต.  2. ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพนักจัดการเลือกตั้งมืออาชีพ เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนจะต้องได้รับการอบรม และขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นนักจัดการเลือกตั้งมืออาชีพ โดยตั้งเป้าว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น หน่วยเลือกตั้งทีถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบว่าทำหน้าที่ไม่ถูกระเบียบต้องไม่เกินร้อยละ 0.01 หรือไม่เกิน 10 หน่วยจาก 1 แสนหน่วยทั่วประเทศ3. ยุทธศาสตร์จัดตั้งหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยตั้งเป้าว่าก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2560ประเทศไทยจะมีหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างน้อย 1 หมู่บ้านต่อหนึ่งอำเภอ เพื่อนำร่องและเป็นต้นแบบให้แก่หมู่บ้านอื่นๆ

4. ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยกำหนดให้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสนับสนุนการเลือกตั้งคุณภาพ เช่นการพัฒนา แอพพลิเคชั่น ฉลาดเลือกผู้แทน ให้ข้อมูลผู้สมัครและนโยบายพรรคการเมืองแก่ประชาชนการพัฒนาระบบการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร โดยตั้งเป้ามีผู้ลงทะเบียนอย่างน้อย 4 แสนคน และการทดลองนำร่องการลงคะแนนเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ตสำหรับคนไทยในต่างประเทศจำนวน 3 ประเทศ คือ จอร์แดน นอร์เวย์ และเมืองโอซากาประเทศญี่ปุ่น และเตรียมพัฒนาเครื่องต้นแบบเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ แบบหน้าจอสัมผัสทัชสกรีนและ 5 ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพสืบสวนสอบสวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดีในศาล โดยตั้งเป้าให้กกต.จังหวัดทุกจังหวัดจะต้องกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือนโดยทุกยุทธศาสตร์ กกต.จะใช้วิธีการประเมินผลแบบเคพีไอ และมีตัวกำหนดผลลัพธ์อย่างชัดเจน