ย้อนคดีอัลไพน์!!! ดูชะตา " ยงยุทธ " กรรมจะเช็คบิล หรือหลุดรอดตามรอยป๋าเหนาะ???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

          น่าจะเรียกว่าเป็นการประเดิมศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางสำหรับการฟ้องเอาผิดนักการเมืองบิ๊กเนม เมื่อวันนี้ (26 ต.ค.59)  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้นำสำนวนคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นเอกสารประมาณ 8 ลัง เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ  อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนั้น และอดีตหัวหน้าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

          กระนั้นมหากาพย์แห่งอัลไพน์หาใช่ จะพบเพียงนายยงยุทธ เท่านั้นที่อยู่ในข่ายกระทำความผิด หากแต่ว่านักการเมืองใหญ่ อย่างเจ้าพ่อวังน้ำเย็น ป๋าเหนาะ เสนาะ เทียนทอง ก็เคยนอนฝันร้ายหลายปีกับคำสาปของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เจ้าของที่ดินตัวจริง  ดังนั้นลองย้อนกลับไปดูที่มา ที่ไปของคดีนี้ พร้อมกับต้องลุ้นกันว่า ยงยุทธ จะหลุดวิบากกรรมนี้ไปได้อย่างผู้เฒ่าวังน้ำเย็นหรือไม่

          ว่ากันว่าคำตัดสินของ "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" พิพากษายกฟ้องคดีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กว่า 700 ไร่ ทำให้ "เสนาะ เทียนทอง" หัวหน้าพรรคประชาราชขณะนั้นนอนหลับได้เต็มตื่นหลังจากต้องนอนขวัญผวาตลอดเวลานานนับปี เพราะวลีที่ว่า "ทุจริตที่ธรณีสงฆ์" ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง เสนาะ อดีต รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 โดยคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี เนื่องจากความผิดมาตราดังกล่าวมีระวางโทษถึงขั้นประหารชีวิต

ย้อนคดีอัลไพน์!!! ดูชะตา " ยงยุทธ " กรรมจะเช็คบิล หรือหลุดรอดตามรอยป๋าเหนาะ???

          หากแต่ว่าเมื่อคดีถึงศาล โดยคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเรื่อง "อายุความ" โดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง โดยทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าคดีนี้ขาดอายุความหรือไม่ ทางองค์คณะได้ประชุมปรึกษาหารือกัน มีความเห็นว่า การฟ้องคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 วรรคหนึ่ง กำหนดเรื่องความผิดที่ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 20 ปี ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดนับแต่วันกระทำความผิด คดีเป็นอันขาดอายุความ

        "...ขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2553 อ้างว่าคดียังไม่ขาดอายุความ เนื่องจากหากนับการกระทำผิดการจดทะเบียนซื้อขายที่ดินอัลไพน์ วันสุดท้ายจะครบในวันที่ 21 สิงหาคม 2553 นั้น แต่ปรากฏว่าจำเลยมาปรากฏตัวต่อศาลในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตามกำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งแรก จึงถือว่าโจทก์ไม่ได้นำตัวผู้กระทำผิดมาส่งศาลเพื่อฟ้องคดีอาญาตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2553 ตามที่อ้างว่าจะเป็นวันขาดอายุความ"

          นั่นหมายความว่า ต้องนำตัว "เสนาะ" มายังศาลก่อนวันที่คดีนี้จะหมดอายุความในวันที่ 21 สิงหาคม 2553 แต่ปรากฏว่า "เสนาะ" เพิ่งมาปรากฏตัวต่อศาลในวันที่ 19 พฤศจิกายน จึงถือว่าโจทก์ไม่ได้นำตัวผู้กระทำผิดมาส่งศาลเพื่อฟ้องคดีอาญาตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2553 ตามที่อ้างว่าจะเป็นวันขาดอายุความ ดังนั้นสิทธิ์การฟ้องคดีอาญาย่อมถูกระงับไป

ย้อนคดีอัลไพน์!!! ดูชะตา " ยงยุทธ " กรรมจะเช็คบิล หรือหลุดรอดตามรอยป๋าเหนาะ???

           สำหรับคดีจัดซื้อที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ในสำนวนของ "ป.ป.ช." ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 "เสนาะ" ได้ใช้อำนาจในฐานะ รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน มีคำสั่งไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับมรดกที่ดินดังกล่าว โดยให้โอนที่ดินให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของ "นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา" เจ้ามรดกที่ดินดังกล่าว ที่ได้ทำพินัยกรรมมอบที่ดินให้วัด และจากการไต่สวนข้อเท็จจริง ในที่ดินตามพินัยกรรมดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ ปรากฏว่า "คณะกรรมการกฤษฎีกา" พิจารณาและเห็นว่า ที่ดินของ "นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา" ตกเป็นของวัดและเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว เนื่องจาก "นางเนื่อม" ได้ทำพินัยกรรมมอบที่ดินให้วัด เมื่อ "นางเนื่อม" เสียชีวิตลงต้องถือว่ามีผลตามพินัยกรรมทันที! ต่อมา บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด ได้ติดต่อขอซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจากมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในราคา 142 ล้านบาท

       ทั้งนี้จากการตรวจสอบปรากฏว่า บริษัททั้งสองแห่งมี นางอุไรวรรณ เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 3 แสนหุ้น มูลค่า 30 ล้านบาท, นายวิทยา เทียนทอง ถือหุ้นอยู่ 1.5 แสนหุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท, นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ถือหุ้น 1.5 แสนหุ้น มาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2533 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ "เสนาะ" จะไม่อนุญาตให้วัดรับที่ดินที่ได้มาตามพินัยกรรม ต่อมามีการนำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองในวงเงิน 220 ล้านบาท และในปี พ.ศ.2541 "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เข้ามาขอซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์จาก "เสนาะ" ในราคา 500 ล้านบาท

          ขณะที่วิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ก็ยอมรับคำพิพากษาของศาลในคดีเรื่องความผิดคงจบลงแค่นี้ และเห็นว่าต้นเหตุของคดีนี้เกิดจากปัญหาเรื่องอายุความ ทำให้การพิจารณาดำเนินคดีเอาผิดกับนักการเมืองสะดุดลง ซึ่งมาวันนี้ ปปช.ชุดใหม่ได้หอบหลักฐานถึง 8 ลัง มาฟ้องยงยุทธ กับศาลอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งคดีนี้ยังมีในเรื่องของข้อเท็จจริง จึงยังต้องทำให้ลุ้นกันต่อไปว่าบทสรุปของคดีขายที่ธรณีสงฆ์ จะลงเอยอย่างไรและนักการเมืองอย่างยงยุทธ จะหลุดรอดไปได้ หรือจะต้องรับผลที่จะเกิดขึ้นแทนใครหรือไม่???