" ขออยู่บ้านพ่อเป็นหลังสุดท้าย " ได้อยู่บ้านของในหลวง ดีใจจนน้ำตาไหลเลย"ปุ่น ชนิกานต์" (บ้านที่พ่อสร้างฯ#2)

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       “ จะไม่ไปไหนแล้วจะอยู่ที่นี่ จะอยู่บ้านของในหลวง บ้านของพ่อเป็นหลังสุดท้าย  รู้ว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นี่คือ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว ก็ภูมิใจกันทุกคน  พอรู้ก็ดีใจน้ำตาไหลเลย ร้องไห้ตั้งแต่ตอนโน้น เหมือนกับเป็นบ้านที่พ่อให้มา นี่ถ้าเกิดเราไม่ได้ประสบภัยก็คงไม่ได้มาอยู่ในจุดๆนี้  ก็บอกทุกคนว่า จะเป็นบ้านไม้ บ้านชั้นสูงก็ตาม ก็เป็นบ้านของในหลวง เราอย่าไปพูด อย่าไปคุยไปว่าอะไรเพราะว่าเป็นบ้านของในหลวง เป็นบ้านของแก ”

        ชนิกานต์ นะทะเล หรือพี่ปุ่น ผู้มีศักดิ์เป็นหลานสาวของลุงโอ๊ะ(นาวารักษ์) มีลูกสาวตัวน้อย เด็กนักเรียนหญิงชั้นป.1 ผู้ที่ต้องสูญเสียพ่อไปเมื่อคราวเหตุการณ์สึนามิ หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่บ้านพักถาวรเมื่อประมาณสิงหาคม 2548

       “ รู้ว่าที่นี่ เขาปลูกไว้สำหรับคนที่ประสบภัย สำหรับคนที่นี่(หมู่2) ส่วนคนหมู่อื่น เขาก็ไปสร้างอยู่ที่อื่นกัน ที่นี่จะสร้างไว้สำหรับคนที่อยู่หมู่2เดิมโดยเฉพาะ แล้วเขาก็จะถามว่าจะย้ายมาอยู่นี่ หรือจะกลับไปซ่อมบ้านเดิมที่พัง ใครอยากจะย้ายกลับไปอยู่ที่เดิม เขาก็จะไปปลูกบ้านให้ที่เดิม ”

       ถามว่าตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่นั้น ไฟฟ้า น้ำประปา มีใช้อย่างสะดวกแล้วหรือยัง คำตอบก็คือทุกอย่างพร้อม ตอนพวกเขาย้ายเข้ามาทุกอย่างมีอยู่พร้อมสรรพแล้ว ถนนก็นั้นมีแล้วแต่ยังไม่เต็มร้อยทั้งหมด และเมื่อถามถึงการช่วยเหลืออื่นๆของสำนักงานทรัพย์สินฯก็มีการส่งเสริมพัฒนากลุ่มอาชีพสหกรณ์

       “ เขาก็ส่งเสริมประมงและเกษตร ใช้ระบบเงินหมุนเวียน เขาให้งบมา ก็คือให้หมู่บ้านเพื่อมาจัดการกับเงินกู้ยืม แล้วเอาไปลงทุนการประมง การเกษตร เงินออม ร้านค้าชุมชนในหมู่บ้าน ชาวบ้านในชุมชนก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ได้เข้ามาซื้อ คือโครงการของสำนักงานทรัพย์สินฯ มาเริ่มเมื่อปีที่แล้วคือปี51 ประมาณเดือนเมษาพอถึงมิถุนาก็เริ่มให้กู้ ให้กู้แบบหมุนเวียน ”

" ขออยู่บ้านพ่อเป็นหลังสุดท้าย " ได้อยู่บ้านของในหลวง ดีใจจนน้ำตาไหลเลย"ปุ่น ชนิกานต์" (บ้านที่พ่อสร้างฯ#2)

       พี่ปุ่นบอกว่าหากให้ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม แกคงไม่กลับไปแล้ว  “ ยังรู้สึกพะวงอยู่ บางครั้งที่เราออกไปทำงานลูกหรือว่าเด็กๆอยู่บ้าน พอแผ่นดินไหวครั้งนึงเราก็เป็นห่วง แต่ถ้าอยู่ที่นี่มันยังอุ่นใจ ญาติๆ อยู่ที่นี่ มันยังอุ่นใจอยู่  บ้านสองชั้นนี่ส่วนมากจะเป็นมอแกนหมด แล้วก็จะอยู่ติดๆกัน” พี่ออมตอกย้ำ ก่อนพี่ปุ่นจะเล่นให้ฟังถึงวันที่รู้ว่าที่นี่เป็นบ้านของในหลวง

       “ ที่นี่จะมีคนนอกด้วย ที่อยากจะอยู่บ้านพักถาวร เขาก็จะจัดให้อยู่ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าที่นี่เป็นของทรัพย์สินฯ ก็คือเขาเอาแบบมาให้ดูแล้วก็ให้เลือกว่าจะเอาแบบชั้นเดียวหรือว่าสองชั้น พอดูจากโครงสร้าง เห็นมีแบบสองชั้นถูกใจก็เลยจองไว้ในใจ  ก็ไม่รู้จริงๆว่าเป็นของทรัพย์สินฯตอนนั้นน่ะ บ้านชั้นเดียวเป็นของที่สุราษฎร์ที่มาจัดให้ ซึ่งเขามาสร้างไว้ก่อนแล้ว  ของทรัพย์สินฯมาสร้างไว้ทีหลัง ชาวบ้านเขาไม่รู้ว่าเป็นของทรัพย์สินฯ เพิ่งมารู้ตอนที่เราเข้ามาอยู่แล้ว นั่นก็คือวันที่มอบบ้าน

       ก็รู้ว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นี่คือ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว ก็ภูมิใจกันทุกคน ก็ดีใจว่าได้อยู่บ้านของในหลวง ดีใจจนน้ำตาไหลเลย ที่รู้ว่าได้ของในหลวง พอพูดแล้วก็ซึ้งอีก(พึมพำ) (ตอนนี้ก็เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า เสียงสั่นๆ) รู้ว่าที่อื่นเป็นของคนอื่น แต่ที่นี่มันเป็นของในหลวงเป็นของแก ” ใครจะรู้ว่าคนหัวเราะเก่ง ยิ้มง่ายอย่างพี่ปุ่นเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ กลับร้องไห้น้ำตาคลอหน่วย แต่เธอก็ยังเล่าถึงนาทีความประทับต่อไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

" ขออยู่บ้านพ่อเป็นหลังสุดท้าย " ได้อยู่บ้านของในหลวง ดีใจจนน้ำตาไหลเลย"ปุ่น ชนิกานต์" (บ้านที่พ่อสร้างฯ#2)

       “ ร้องไห้อีกแล้ว ดีใจ ว่าได้อยู่กับแก ได้อยู่ของในหลวง ทุกคนก็ภูมิใจมาก เหมือนกับเป็นบ้านที่พ่อให้มา นี่ถ้าเกิดเราไม่ได้ประสบภัยก็คงไม่ได้มาอยู่ในจุดๆนี้ (เสียงแผ่วลง)ไม่อยากพูดเลย พูดแล้วจะร้องไห้อีก ” พูดมาถึงตรงนี้พี่ปุ่นก็นิ่งไป คล้ายอยากจะพูด แต่พูดไม่ออก ตาแดงน้ำตาไหลลงอาบแก้ม จนเธอต้องยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตา และเมื่อหันไปทางพี่ออมที่บัดนี้ ก็นั่งตาแดง สูดจมูกด้วยน้ำมูกแรง ก่อนจะบอกว่าโชคดีแล้วที่ไม่มีใครรู้ก่อนว่าบ้านเป็นของในหลวง

       “ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้บอกเลย ว่าจะได้มาอยู่บ้านของในหลวง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้บอก ถ้าเขาบอกตั้งแต่ทีแรกก็คงจะไม่ได้มาอยู่ เพราะคนอื่นก็จะแย่งมาอยู่กันก่อน มาจองกันก่อน น่าจะแย่งกันมาอยู่ พอรู้ก็ดีใจ ก็คงร้องไห้ตั้งแต่ตอนนู้นแหละ ตอนนั้นก็พูดว่าได้แล้วๆ เราได้แล้วๆ  เราได้ของในหลวงแล้ว  ถ้าเกิดไม่เจอภัยสึนามิ ก็คงจะไม่ได้มาอยู่ของในหลวง ก็บอกทุกคนว่า จะเป็นบ้านไม้ บ้านชั้นสูงก็ตามก็เป็นบ้านของในหลวง เราอย่าไปพูด อย่าไปคุย ไปว่าอะไรเพราะว่าเป็นบ้านของในหลวง เป็นบ้านของแก ” 

       เสียงจากพี่ปุ่นดังขึ้นมาอีกครั้งหลังนั่งเช็ดน้ำตาที่แก้ม และก็ยังเล่าต่อไปอีกว่า ทรัพย์สินส่วนตัวของพระมหากษัตริย์ ก็เป็นของในหลวง เขาเอามาสร้าง ก็คือเงินของในหลวง ทรัพย์สินส่วนตัวของพระมหากษัตริย์