สาเหตุที่แท้จริง!!! "น้องฟลุ๊ค" เผยความรู้สึก ทำไมหนูถึงหนีออกจากบ้าน?? ได้ฟังคำตอบทำคนเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดถึงกับน้ำตาร่วง

 

 

 

 

     จากกรณีคุณแม่โพสต์ตามหาลูกชายที่ได้หายไปผ่านโลกออนไลน์ หลังจากพลัดหลงกับพ่อที่เยาวราช ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการแจ้งความกับตำรวจที่ สน.พลับพลาไชย 1 และ สน.จักรวรรดิ (อ่านข่าว: วอนช่วยกันแชร์!! เด็กวัย 9 ขวบพลัดหลงกับพ่อแม่ย่านเยาวราช ล่าสุดยังไม่พบเบาะแสใดๆ แม่เด็กครวญ "แม่ใจจะขาดแล้วลูกเอ๋ย" http://deeps.tnews.co.th/contents/210565/) ก่อนที่ต่อมา มีพลเมืองดีพบตัว "น้องฟลุ๊ค" ด.ช.พีระพงษ์ สีฉลาด อายุ 9 ปี บริเวณหน้าวัดราษฎร์บำรุง ซ.เพชรเกษม 69 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยน้องฟลุ๊คอยู่ในสภาพมอมแมมและร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล (อ่านข่าว: โล่งหัวใจคนเป็นพ่อแม่! !! เจอแล้ว "น้องฟลุ๊ค" เด็กวัยแค่ 9 ขวบแจ้งพลัดหลงแถวเยาวราช พบขึ้นรถเมล์ไปหลบอยู่บ้านเพื่อนย่านท่าพระ !!?!! http://deeps.tnews.co.th/contents/210763/)

 

 

     ล่าสุด นางนิชาภา โชติพัฒนามณี แม่แท้ๆ วัย 33 ปี ได้พาน้องฟลุ๊ค มาแจ้งความที่ สน.หลักสอง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนางสุพัฒน์ตรา จันทร์โอกุล วัย 30 ปี แม่เลี้ยงที่ทำร้ายน้องฟลุ๊คมานานถึง 3 ปี โดยนางนิชาภา เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นผู้จัดการปั๊มแห่งหนึ่งย่านหนองแขม ส่วนนายวีระพงษ์ ลีฉลาด วัย 33 ปี พ่อน้องฟลุ๊ค ทำงานที่เดียวกัน จากนั้นนางสุพัฒน์ตราได้มาทำงานที่ปั๊มเดียวกันอีก จนมีความสัมพันธ์กับพ่อของน้องฟลุ๊ค ซึ่งตนจับได้ และหย่ากับนายวีระพงษ์เมื่อปี 2554 ซึ่งภายหลังนายวีระพงษ์ได้อยู่กินกับนางสุพัฒน์ตรา จนมีบุตรด้วยกันอีก 2 คน นายวีระพงษ์ ได้มารับลูกที่เกิดกับตนและเขา 2 คนไปเลี้ยง คือน้องฟลุ๊ค และน้องสาววัย 7 ขวบ เนื่องจากอ้างว่าตนไม่มีเวลาเลี้ยงลูก หลังจากนั้นตนก็ได้ไปเยี่ยมลูก ลูกก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่น้องฟลุ๊คหนีออกมา ซึ่งตนสงสารลูกมาก และตั้งใจแจ้งความเอาเรื่องนางสุพัฒน์ตราให้ถึงที่สุด

 

 

 

 

     ซึ่ง น้องฟลุ๊คได้ให้การว่า ช่วงที่อยู่กับแม่เลี้ยงนั้น ตนจะโดนบังคับให้ทำงานหนักตลอดไม่มีวันหยุด ไม่ยอมให้ไปเรียนหนังสือ ทั้งที่ตนเรียนชั้น ป.2 ที่โรงเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจ (พุ่มประดับราษฎร์สามัคคี) ถ้าหากตนทำงานช้า ก็จะถูกลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ เช่น หยิกตามลำตัว ใช้มีดปอกผลไม้สับที่หัวเขา กัดใบหู ใช้ส้อมแทงเข้าไปในหู นอกจากนี้ยังบังคับให้น้องสาวมากัดหูตนด้วย และเคยบังคับให้เอาชามกระเบื้องปาใส่พ่อ แต่พ่อรู้ทันจึงเอาชามปาใส่คืน นอกจากนั้นแม่เลี้ยงยังบังคับไม่ให้ตนบอกใคร มิเช่นนั้นจะโดนมากกว่านี้ ตนทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้จะไม่ทนอีกต่อไป เพราะอาจจะพิการได้

 

 

 

 

 

     ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตร.สืบสวนได้ทำหนังสือส่งตัวน้องฟลุ๊คไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย และเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ

 

 

 

เรียบเรียง : กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล : WorkpointTV