ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

 

     สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 2 พ.ย. 2559 ยังไม่จบง่ายๆ ประเด็นเรื่องราวฉางข้าวที่ถูกลากมาโยงกับการเมือง แน่นอน เพราะประเด็นนี้เป็นประเด็นร้อนสำหรับทางฟากฝั่งพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกเรียกค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านนั้นจะต้องโดนคดีอาญา ไม่รู้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร แต่ในแง่ของความรู้สึกแล้วกดดันอย่างมาก ในแง่ของด้านการเมืองต้องถือว่าอยู่ในภาวะที่ถอยร่นอย่างไม่เป็นท่า

 

     ดังนั้นโอกาสในการที่จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาได้ แน่นอน ต้องมาจากการแก้ไขปัญหาราคาข้าวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้ประสิทธิภาพและไม่มีฝีมือ แต่หลังจากที่มีการเปิดประเด็นเหล่านี้ออกมา กระแสเสียงเริ่มที่จะเห็นชัดได้ว่ามีเรื่องทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลเองได้พยายามในการเปิดการจำนำข้าวที่ยุ้งฉาง ซึ่งถือว่าเป็นหลักการจำนำที่ถูกต้องตามปกติ ในการที่จะดึงราคาข้าว ทางฟากฝั่งพรรคเพื่อไทยก็ออกมากระหน่ำบอกว่า เห็นมั๊ย? ยังไงก็กลับมาใช้วิธีการแบบเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยทำ แต่ไม่มีความสามารถที่จะทำได้ ตรงไม่มีความสามารถที่จะทำได้นี่แหละครับ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดมักง่ายแบบที่พรรคเพื่อไทยทำ ก็ให้จำนำข้าวตันละ 1.6 หมื่นเลย จะเป็นอะไรไปล่ะ ชาวนาก็จะดีใจตีปี๊บไชโยโห่ร้องกันทั่วประเทศ แต่ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร และการจำนำข้าวที่มันเกินราคาตลาด นั่นมันคือการขายขาดไม่ใช่การจำนำ แต่การจำนำที่ยุ้งฉางนั้นเป็นการจำนำจริงๆ เพื่อที่ต้องการจะให้ชาวนามีระยะเวลาในการที่ถือครองข้าวไว้ และเมื่อเวลาที่ข้าวราคาสูงก็สามารถที่จะขายปล่อยออกไปได้ และหาวิถีทางในการที่จะช่วยอย่างอื่น

 

     ในวันนี้ราคาข้าวสำหรับชาวนาในการที่จะได้โดยทางโน้นทางนี้ แต่ไม่กลายมาเป็นภาระการเงินก็ 1.3 หมื่นบาท ก็ต้องดูต่อล่ะครับว่ากระแสในการสร้างให้เป็นประเด็นทางการเมืองสำหรับชาวนาจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ แต่ปรากฏการณ์ที่ชัดเจน ความพยายามในการที่จะให้ชาวนาสีข้าวขายเองกลายเป็นกระแสหลักที่น่าสนใจ กระบวนการการพึ่งพาตัวเองหรือช่วยเหลือตัวเอง มันอาจจะทำให้เกิดการผลิตขนาดย่อยกระจายทั่วทั้งประเทศ และอาจจะมารวมตัวกันในชนการตลาด ในรูปแบบสาดโคลนหรือรูปแบบอื่นๆ โรงสีทั้งหลายที่กดขี่ชาวนามาอย่างยาวนานระวังเอาไว้บ้างก็ดี