ปลื้มใจสุดๆ !!! ม.เกษตร+ม.รังสิต  ผุดไอเดีย"ทุนลูกชาวนา"   เปิดพื้นที่ขายข้าวสารลุยต่อยอดครบวงจร สร้างแบรนด์ขายออนไลน์ !!?!!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจดีของทุกฝ่ายในการสนับสนุนอาชีพชาวนาให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ในช่วงนี้ไปได้  ก่อนที่จะเข้าสู่แนวการพัฒนาที่มีความยั่งยืนอย่างครบวงจร โดยเป็นการเปิดเผยจาก  นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) ระบุว่า จากการพูดคุยเพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤติราคาข้าว ช่วยเหลือชาวนาในเบื้องต้น ได้ข้อสรุป 5 ข้อ ดังนี้

 

1. มหาวิทยาลัยรังสิต จะจัดให้มีจุดรับข้าว เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชาวนาสามารถนำข้าวสารมาขาย

 

2.ให้ชาวนาในพื้นที่บริเวณหนองสาหร่าย จ.กาญจนบุรี สามารถนำข้าวเปลือกมาสีได้ที่โรงสีข้าวหนองสาหร่าย ซึ่งอยู่ในโครงการนวัตกรรมนาข้าว ชาวนาอัจฉริยะ ของ มหาวิทยาลัยรังสิต

         

3.ช่วยเหลือนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิตที่เป็นลูกชาวนา โดยให้นำข้าวสารมาจ่ายเป็นค่าหน่วยกิตได้ และจัดให้มีทุนการศึกษา “ทุนลูกชาวนา” โดยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ

 

 4.จัดพื้นที่ให้บุคลากร นักศึกษาที่ครอบครัวทำนา ได้นำข้าวสารมาร่วมจำหน่าย โดยเปิดโซนพื้นที่ในการจำหน่ายให้เป็นถนนข้าวสารลานแบร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อเป็นอีกช่องทางในการช่วยจำหน่ายข้าวสาร

 

 5.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย ร่วมกับสถาบันต่างๆ จะมีการจัดเวทีนำเสนอนโยบายช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นรูปธรรรมและจะจัดกิจกรรมผู้บริโภคพบปะจับคู่ชาวนาในวาระต่อไป

ทางด้าน   ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวถึงกรณีช่วยหลือชาวนา ว่าที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้มีการช่วยเหลือเกษตรกรทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ชาวนา หรือเกษตรกรที่ผลิตผลทางการเกษตร โดยในส่วนของชาวนานั้น ก่อนหน้านี้มก. ได้มีการจัดโครงการ ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ลูกชาวนา และชาวนา ได้นำข้าวสารที่ขณะนี้มีราคาถูกมากระจายไปสู่พื้นที่ต่างๆ ผ่านเครือข่ายเกษตรกร รวมถึงมีการฝึกอบรมให้ลูกชาวนา ชาวนา และเกษตรกรพัฒนาที่จะสร้างแบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์ของตนเองในอนาคตด้วย นอกจากนั้น ในส่วนของมหาวิทยาลัย ก็ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่มีจากครอบครัวเกษตรกร เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักศึกษา ลูกหลานเกษตรกรที่ประสบปัญหาทางการเงินได้เรียนต่อจนจบการศึกษา

 “ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้มีการเตรียมหาแนวทางในการช่วยบรรเทาปัญหาของชาวนาไว้แล้ว โดยเบื้องต้นจะเปิดพื้นที่มก.บางเขน เพื่อให้ชาวนาได้นำข้าวมาขาย และกำลังจะประชุมหารือกับผู้บริหารคณะเกษตรศาสตร์ คณะประมง คณะเศรษฐศาสตร์ และคณะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือชาวนาในระยะยาว อย่างไรก็ตาม มก.ได้มีแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรทุกรูปแบบ โดยในส่วนของชาวนานั้น ที่ผ่านมาคณาจารย์จากภาควิชาการเกษตร หรือที่เกี่ยวข้องได้มีการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ชาวนา เกษตรกรแปรรูปข้าว รวมถึงการรักษามาตรฐานเรื่องคุณภาพของข้าว และการปลูกพืชชนิดอื่นๆ หลังการทำนา เช่น ปลูกไม้ยืนต้นหรือไม้ที่มีประโยชน์ใช้สอย อย่าง ต้นยูคาลิปตัส ต้นสะเดา หรือปลูกถั่วเขียว พืชเหล่านี้สามารถปลูกได้โดยไม่มีผลกระทบต่อนาข้าว”