เลิกโต้รายวัน!!! "บิ๊กตู่" สั่งลดถกเถียงแผนแก้ปัญหาราคาข้าวเน้นแจงรูปธรรมช่วยชาวนา  สรรพากรย้อนสอบโรงสี 3 ปีดูบัญชีรายได้หาร่องรอยขูดรีด??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ถือเป็นประเด็นกระทบกระทั่งผ่านสื่อมวลชนมาระยะหนึ่ง  สำหรับกรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทย  ออกมาวิจารณ์การแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำของรัฐบาลในขณะนี้  ล่าสุด  พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ลดการตอบโต้ เพราะไม่จำเป็นต้องตอบโต้ว่าใครดีหรือไม่ดี  แต่อยากให้อธิบายด้วยหลักการและเหตุผลเพื่อลดความขัดแย้ง

 

“นายกรัฐมนตรีย้ำเสมอว่า ให้หาโอกาสทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนให้ช่วยกันทำงานเพื่อยกระดับสังคมให้ดีขึ้น ทั้งสั่งการไปยังข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงข้าราชการการเมืองในเรื่องการแก้ปัญหาการเกษตรว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเรื่องการเกษตรและปัญหาอื่นๆ ให้ตรงจุด และชี้แจงทำความเข้าใจด้วยเหตุผล เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างแท้จริง อีกทั้งยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามแนวทางอย่างยั่งยืนทั้งในระยะยาวและระยะสั้น พร้อมยึดการทำงานตามนโยบายการเกษตรแบบผสมผสาน รวมถึงเรื่องการปล่อยสินเชื่อข้าวหอมมะลิด้วย”

ทางด้าน   นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้เรียกคณะกรรมการนโยบายข้าว (นบข.) ประชุมด่วนในวันที่ 7 พฤศจิกายน เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวขาวที่จะมีผลผลิตออกมาจำนวนมากในช่วงกลางเดือนนี้ นอกจากนั้นยังจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายรับซื้อข้าวหอมมะลิในโครงการจำนำยุ้งฉาง ราคาตันละ 1.3 หมื่นบาท ของรัฐบาลด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์อาจจะมีการนัดประชุมเตรียมการล่วงหน้าในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ก่อนเข้าที่ประชุม นบข.

         

นอกจากนี้มีรายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่สำรวจปริมาณสถานการณ์ปริมาณผลผลิตข้างนาปีรอบแรกอย่างละเอียด เพื่อทำให้ตัวเลขข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ใช่ตัวเลขประมาณการ โดยมีการลงพื้นที่ 28 จังหวัด ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และจังหวัดภาคกลาง ที่เป็นแหล่งใหญ่เพาะปลูกข้าวของประเทศ

ทางด้านกระบวนการตรวจสอบโรงสีที่อาจมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมโดยการกดราคาข้าวเปลือกของชาวนา   นายสมพงษ์ ตัณฑพาทย์ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ปฏิบัติการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่าได้ส่งหนังสือด่วน ถึงสรรพากรทุกพื้นที่และสรรพากรทุกภาค เพื่อให้มีการกำกับดูแลผู้ประกอบการโรงสีข้าว ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงของการประกอบการในปัจจุบันแล้ว  โดยจะมีการเข้าไปดูทั้งต้นทุนและราคาขายด้วยการขอตรวจสอบผลประการการย้อนหลัง 3 ปี และรายงานผลต่ออธิบดีผ่านสำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษีทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้