- 10 พ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ถือเป็นหนึ่งปฏิกิริยาสัมพันธ์ทางการเมืองในประเทศไทยที่น่าสนใจ ว่าภายหลังสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนขั้วอำนาจจากพรรคเดโมแรครตมาเป็นพรรครีพับลิกัน และได้ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทางเครือข่ายระบอบทักษิณจะมีมุมมองต่อความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร
ทั้งนี้ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวแสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า สำหรับประเทศไทย คิดว่าสหรัฐฯ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เพราะรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ มีความแน่นแฟ้นมากมาเกือบ 200 ปี สหรัฐฯ ยังเห็นไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญอยู่ในภูมิภาคนี้ ขณะที่ไทยเองก็ยังต้องการสหรัฐฯ ในแง่ของการส่งออกสินค้าที่สำคัญ
"ประเด็นที่อาจจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยอย่างหนึ่งก็คือ ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนอาจจะลดน้อยลง เพราะพรรคริพับลิกันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่เท่าพรรคเดโมแครต ดังนั้น อาจจะมีการผ่อนคลายประเด็นเหล่านี้ที่จะมาโยงกับเรื่องการค้า แต่อย่างไรก็ตาม การมีประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์โดยอัตโนมัติ เพราะไทยก็ต้องมาปรับปรุงตัวเองด้วย เช่น ต้องเดินหน้าตามโรดแมปสู่การเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยเร็ว ความสัมพันธ์ก็จะแน่นแฟ้นเหมือนเดิม"
ขณะที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการรับมือของรัฐบาลไทยต่อผู้นำสหรัฐอเมริกาคนใหม่ว่า เชื่อว่าไม่เป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะประเทศไทยต้องกลับไปอยู่ในสังคมโลกให้ได้ก่อน และเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องมากดดันไทยให้มีการเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลจากการเลือกตั้งจะเป็นที่ยอมรับจากสหรัฐอเมริกามากกว่า แต่เมื่อไทยเลือกตั้งแล้ว เชื่อว่าไทยกับสหรัฐฯ จะได้ผลประโยชน์กันมาก เนื่องจากไทยกับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทางการทูตมาตั้งแต่ปี 2376 และสถานทูตสหรัฐฯ ในไทย ถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน มีบุคลากรมากมาย อีกทั้งต้องยอมรับว่าประเทศไทยสามารถเจริญขึ้นมาจากในอดีตได้นั้น เป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ มาโดยตลอด
เรียบเรียงโดย : ชัชรินทร์ สำนักข่าวทีนิวส์