ตัดเนื้อร้ายทิ้ง!!! อธิบดีง้างฟัน2ขรก.DSI ส่อรับสินบน40ล้านศุภชัยสหกรณ์คลองจั่น เผยแจ้งข้อหาแล้วรอสั่งพักราชการ ???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

อธิบดีDSI ฮึ่ม จ่อสั่งฟันวินัย-พักงาน 2ข้าราชการดีเอสไอ ส่อรับสินบน20-40ล้านศุภชัย-สหกรณ์ฯคลองจั่น พบรับเช็คจากการขายที่ดิน เผยถูกแจ้งข้อหาแล้วรอสั่งพักราชการ

 

       พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า ดีเอสไอ ได้สอบสวนคดีฟอกเงินในกลุ่มของนายหน้าขายที่ดิน ซึ่งเชื่อมโยงกับการนำที่ดินของสหกรณ์ไปขายให้กับบริษัท พิษณุโลก เอทานอล จำกัด หรือคดีพิเศษที่ 42/2559 ขณะนี้พนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 อยู่ระหว่างการเรียกผู้เกี่ยวข้องในการรับเช็คจากการขายที่ดินกว่า 10 ราย ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน โดยในส่วนของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ พนักงานสอบสวนได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำกลางบางขวางไปแล้ว ตั้งแต่วันที่8พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว4คน

       โดยในวันนี้ (11พ.ย.) พนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษ3 ได้แจ้งข้อหากล่าวหากับข้าราชการดีเอสไอ 2 ราย ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินที่มาจากการซื้อขายที่ดินดังกล่าว โดยมีพยานหลักฐาน ชี้ว่าเช็คที่สั่งจ่ายโดยนายศุภชัย มีการถ่ายโอนหลายทอด ซึ่งเส้นทางการเงินส่วนหนึ่งไปปรากฏในบัญชีเงินฝากของข้าราชการรายดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 20-40 ล้านบาท ทั้งนี้อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า การสอบสวนของดีเอสไอจะเดินหน้าไปตามพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการกับผู้มีชื่อรับเช็คสั่งจ่ายจากนายศุภชัยทุกราย สำหรับการดำเนินการทางวินัยเรื่องการสั่งพักราชการกับข้าราชการดีเอสไอที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น ต้องรอตรวจสอบรายละเอียดในสำนวนก่อน แต่ขณะนี้ทั้งข้าราชการทั้ง2ราย ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวนคดีทุกประเภทแล้ว

       สำหรับคดีฟอกเงินในกลุ่มนายหน้าค้าที่ดิน สืบเนื่องมากจากการร่วมกันถอนอายัดโฉนดที่ดินของพนักงานสอบสวนดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยนายศุภชัยอ้างว่าต้องการขายที่ดินเพื่อนำเงินมาคืนให้กับสหกรณ์ฯ แต่ปรากฏว่ามีการขายที่ดินได้เงิน 477 ล้านบาท แต่นายศุภชัยนำเงินคืนให้สหกรณ์ฯเพียง 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 249 ล้านบาท นายศุภชัยนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัว โดยมีการชี้แจงภายหลังว่ามีการจ่ายค่านายหน้าขายที่ดินวงเงิน 60 ล้านบาท ทำให้ดีเอสไอต้องสอบสวนเป็นคดีฟอกเงินเพื่อติดตามเงินส่วนที่หายไปกลับคืนให้สหกรณ์ฯ