ใช้การเมืองแก้เกษตรอันตราย !!! "บิ๊กตู่" ขอไทยเลิกทะเลาะหันหน้าสามัคคี ถวายเป็นพระราชกุศล ???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ประจำวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559 โดยมีเนื้อหาในรายการบางส่วนที่น่าสนใจ บางช่วงว่า "  วันนี้อยากจะคุยเรื่องเบาๆแต่สำคัญ นั่นคือการดูแลประชาชนที่มีรายได้น้อย ควบคู่ไปกับการลงทุน เดินหน้าประเทศไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0ระยะแรกเกษตรกรต้องรวมตัวกลุ่มอาชีพเดียวกันในพื้นที่เดียวกันให้มีช่องทางใหม่ เรียกว่า เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง หรืออาจไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง  ถ้ามีการรวมตัวกันแล้วมีการลงทะเบียนที่ชัดเจน รัฐบาลก็สามารถจัดงบประมาณลงไปตรงจุด แก้ปัญหาอย่างมีระบบ เป็นการแก้ปัญหา เกาถูกที่คัน เรียกว่า สหกรณ์ภาคการเกษตร

      การแก้ปัญหาต้องไม่ลูบหน้าปะจมูก ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ตาม แต่ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ก็แก้ปัญหาได้ไปเยอะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประชาชนมีความเข้าใจ ไม่มีแรงต่อต้าน ขออย่างเดียว ขอความร่วมมือที่ผ่านมาไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เข้าใจนโยบายที่สร้างความเข้มแข็ง แก้ปัญหาแบบยั่งยืน แล้วก็มาอ้างว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบ หาน้ำ หาตลาด รวมทั้งให้รับซื้อผลผลิตในราคาสูง ซึ่งก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่จะเป็นอันตรายต่อการใช้นโยบายทางการเมือง แก้ปัญหาที่ปลายทาง ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ  และผมก็ขอขอบคุณที่เรารวมพลังก้าวพ้นความเศร้าโศกเป็นพลังในการสร้างสรรค์และร่วมมือเพื่อถวายในหลวงฯของเรา แม้10ปีที่ผ่านมา เราขาดความสามัคคี ทะเลาะขัดแย้ง ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ดี อะไรผิด อะไรถูก อะไรดี อะไรไม่ดี ขอให้พวกเราทุกคนใช้โอกาสนี้ เปลี่ยนแปลงตนเองหันหน้าเข้าหากัน รู้รัก สามัคคี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลร่วมกัน "

       อย่างไรก็ตามขณะที่หน้าศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง จ.สมุทรปราการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมอดีตรัฐมนตรี แกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ ร่วมให้กำลังใจและช่วยชาวนาจาก จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ จำหน่ายข้าวสารจำนวน 10 ตัน ที่ชาวนานำมาขาย โดยจัดจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ถุงละ 5 กิโลกรัมหรือ 100 บาท โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนจำนวนมากรอเข้าคิวซื้อ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ขึ้นไปบนรถกระบะพูดคุยผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยโดยมีมวลชนต่างโห่ร้อง ทำให้เป็นที่น่าสังเกตุว่าคล้ายกับเป็นการปราศรัยหาเสียง