- 12 พ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีที่ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์ของ สมาชิกเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อ "กะต๊อบ กะต๊อบ" ซึ่งมีข้อความระบุว่า... “ช่วยแชร์หน่อยนะคับ..รถเก๋งสีดำชนพ่อผมแล้วหนี.ทางจากบ้านสวนงัว-ม่วงสามสิบ คล้ายๆ วีออสสีดำกับนิสสันอเมร่า..รถเก๋งน่าจะมีรอยข้างคนขับ.เพราะพ่อผมอยู่เลนขวา....แล้วรถเก๋งข้ามเลนมาชน.เสียชีวิตคาที่..ช่วยแชร์หน่อยนะครับ” โดยที่โพสต์ดังกล่าวได้มีการแชร์ไปตามเพจต่างๆ กว่า 16,000 ครั้งในเวลาเพียงวันเดียวนั้น
ล่าสุด นายวิทยา ยลพันธ์ อายุ 29 ปี บุตรชายนายสมพงษ์ ยลพันธ์ อายุ 54 ปี ผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นพนักงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ย.59 ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านว่า บิดาและน้าชายได้ถูกรถชนขณะที่ออกไปดูรถเกี่ยวข้าวที่ทุ่งนา หมู่บ้านข้างเคียง ระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับก็ได้มีรถเก๋งวิ่งเข้ามาชนนายสมพงษ์ จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป ญาติที่เห็นเหตุการณ์ต่างให้การไม่ตรงกันเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก และบริเวณที่เกิดเหตุก็มืดไม่มีกล้องวงจรปิด
นายวิทยาเล่าต่อว่า เมื่อตนเดินทางจากกรุงเทพฯ กลับมาที่บ้านและผ่านจุดเกิดเหตุ จึงได้นำธูปลงมากราบกองเลือดของพ่อ พร้อมเชิญวิญญาณกลับบ้าน โดยมีญาติถ่ายรูปเอาไว้ ตนจึงได้ปรึกษาในหมู่ญาติ ลงประกาศหาเบาะแสทางเฟซบุ๊กจนมีการแชร์เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย และล่าสุดมีพลเมืองดีให้ข้อมูลว่ามีรถต้องสงสัยมีร่องรอยการเฉี่ยวชนอยู่ด้านหน้าขวาตามคำให้การของญาติ เมื่อไปตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของตน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบแต่ไม่พบเจ้าของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออายัดรถไว้เพื่อให้เจ้าของผู้ครอบครองมาแสดงตัว ล่าสุดได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เจ้าของรถคันดังกล่าวได้เข้ามอบตัวแล้ว แต่รายละเอียดขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อจะได้รัดกุม
นายณรงค์ ยลพันธ์ อายุ 51 ปี น้องชายนายสมพงษ์ เล่าถึงนาทีระทึกว่าหลังจากที่ตนเองและนายสมพงษ์กำลังจะกลับบ้านโดยนายสมพงษ์ได้ถือกุญแจรถยนต์ออกมาจากกระเป๋า ทันใดนั้นก็มีรถเก๋งพุ่งเข้ามาเฉี่ยวตนจนล้มและชนนายสมพงษ์กระเด็นไปประมาณ 2 เมตร ส่วนรถเก๋งจอดเลยไปประมาณ 10-15 เมตร จากนั้นก็ขับรถออกไปไม่ลงมาดูแลตนและนายสมพงษ์ แต่อย่างใด เมื่อตนตั้งสติได้ก็เห็นนายสมพงษ์พี่ชายเลือดออกหูและหัวเยอะมาก จากนั้นจึงได้นำใส่รถ 6 ล้อของตนไปส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันนายสมพงษ์ได้เสียชีวิตก่อนหน้าแล้ว
ทั้งนี้ นายวิทยาได้กล่าวขอบคุณพลังโซเชียลที่ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุจนสามารถเข้ามามอบตัวได้ ขอบคุณพี่น้องชาวอุบลราชธานี และทุกท่านที่แชร์พร้อมทั้งให้กำลังใจตนเองและครอบครัว สุดท้ายตนอยากให้ผู้ที่ประสบเหตุการณ์แบบนี้ขอให้หยุดรถช่วยผู้บาดเจ็บ เพราะบางครั้งคนเจ็บอาจจะรอดชีวิตและทางญาติก็จะได้มีความเห็นใจ เนื่องจากอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าได้พยายามช่วยเหลือแล้ว
