มาอีกแล้ว"ปีหน้าเผาจริง"!!!"วัฒนา เมืองสุข" โวแหลกยิ่งลักษณ์ซื้อขายข้าวตอบโจทย์ปัญหา รัฐบาลมัวสนุกจ้องทำลายฝ่ายตรงข้ามศก.ไทยจะยิ่งวิกฤตหนัก?

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

 

เดินหน้าแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง   แม้วันนี้จะเป็นวันที่คนไทยทั้งประเทศกำลังร่วมจิตร่วมใจถวายความอาลัยเนื่องในโอกาสครบ 30 วัน   วันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช

 

โดยล่าสุดทางด้านนายวัฒนา  เมืองสุข  อดีตรมว.พาณิชย์  ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร  ได้โพสต์ในเฟสบุ๊กเหน็บแนมรัฐบาลคสช. โดยอ้างถึงการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา  มีข้อความตอนหนึ่งว่า  “  ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐจะทำให้การลงทุนชะลอตัว นโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีคนใหม่จะกระทบถึงจีน  ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของไทย ส่วนตลาดที่สำคัญอีกแห่งคือสหภาพยุโรปก็เกิดปัญหาเนื่องจากสมาชิกซึ่งเป็นประเทศใหญ่ ได้แก่ อิตาลีมีปัญหาเศรษฐกิจ ฝรั่งเศสกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส่วนสหราชอาณาจักรก็มีปัญหาว่าจะออกจากสหภาพยุโรปตามผลประชามติรือไม่

 

ปัจจัยภายนอกดังกล่าวจะกระทบถึงเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออก ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายใน โดยสร้างกำลังซื้อให้เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่เพื่อพยุงเศรษฐกิจในขณะที่โลกกำลังมีปัญหา

 

ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวปีละประมาณ 32-35 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 20-21 ล้านตันข้าวสาร (ข้าวเปลือก 1 ตันแปรสภาพเป็นข้าวสารได้ 0.6 ตัน) คนไทยบริโภคข้าวสารปีละ 8 ล้านตัน (120 กิโลกรัม/ปี/คน) เราจึงมีข้าวสารเกินจากการบริโภคประมาณ 12 ล้านตันที่จะต้องส่งออก ปัญหาของชาวนาคือราคาข้าวเปลือกตกต่ำซึ่งเป็นปัญหาการตลาดไม่ใช่การผลิต

 

ดังนั้นภาพที่นายกยิ่งลักษณ์ออกไปช่วยชาวนาขายข้าวสารคือการช่วยด้านการตลาดจึงตรงกับปัญหา ส่วนภาพทหารและนักการเมืองบางพรรคที่คิดเหมือนกันด้วยการออกไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าวคือส่วนของการผลิต แม้จะทำไปด้วยเจตนาดีแต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการไม่เข้าใจสาเหตุแห่งปัญหา รัฐบาล คสช. กับพรรคการเมืองบางพรรคจึงคิดเหมือนกันแต่ต่างจากพรรคเพื่อไทยโดยสิ้นเชิง

การช่วยเหลือชาวนาจะต้องเอาผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด แต่นโยบายรับจำนำยุ้งฉางที่มียุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกได้ไม่เกิน 1 ล้านตัน จะไม่ช่วยพยุงราคาเพราะข้าวเปลือกที่เหลือจะออกสู่ตลาดพร้อมกันซึ่งจะทำให้ราคาตกต่ำ ส่วนเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางตันละ 2,000 บาท คือแนวทางการประกันราคาข้าวเปลือกที่เคยดำเนินการมาแล้วแต่ไม่ได้ผล เพราะไม่ได้ช่วยลดอุปทาน (supply) ทำให้ราคาข้าวเปลือกถูกกดต่ำลงไปอีก

 

ในขณะที่การส่งออกมีปัญหา อุตสาหกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญ เช่น รถยนต์จะถูกแทนที่ด้วยรถไฟฟ้าซึ่งจะมีคนตกงานอีกนับแสนคน เกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ขาดกำลังซื้อจะทำให้เศรษฐกิจในเมืองเกิดปัญหา แต่รัฐบาลกลับสนุกกับการทำลายฝ่ายตรงข้ามเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองที่ได้มาโดยไม่ชอบ  ทั้งยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจไทยจึงไม่มีทางจะฟื้นตัว ปีนี้ที่ว่าแย่ยังแค่การทอดผ้าบังสุกุล ปีหน้าคือการเผาจริง เชื่อพุทธศาสนสุภาษิตหรือยังว่า "พาโล อปริณายโก"

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีของนายวัฒนา เมืองสุข ถือเป็นนักการเมืองในระบอบทักษิณอีกคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงการพิจารณาข้อมูลความผิดในโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งอนุกรรมการปปช.เคยให้ข้อมูลว่ามีข้อสรุปในระดับสำคัญเพื่อส่งให้ปปช.พิจารณาชี้มูลว่ามีการกระทำความผิดและแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่  นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงโครงการทุจริตบ้านเอื้ออาทร ถือว่ามีข้อมูลในระดับสำคัญเชื่อได้ว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ มีข้อสรุปเรื่องนี้แล้ว  (อดใจรออีกนิด "วัฒนา เมืองสุข" !!! ปปช.ยันสอบคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทรจบแล้วรอสรุปชี้มูลเร็วๆนี้??   http://deeps.tnews.co.th/contents/204181/ )

 

เรียบเรียงโดย :  ชัชรินทร์  สำนักข่าวทีนิวส์