ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

สุริยะใสชี้ทนายแดงฟ้องเบสท์หาช่องชนะคดียาก ฟันธงก็แค่ขบวนการตีกินทางการเมือง บอกแค่ชื่อทนายก็ชัดคิดอะไรอยู่  ย้อนคำคารมผู้เคยชำแหละนปช.แตก ชาวบ้านยี้แกนนำ ขณะจตุพรเคยสวนอย่าอ้างความเป็นทนาย

 

       ภายหลังจากที่ นายคารม พลพรกลาง นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.(หญิง) สิตานัน โฉมวันดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อรพิมพ์ หรือเบส รักษาผล นักพูดชื่อดัง ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจาก น.ส.อรพิมพ์ ได้เดินทางไปพูดที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่งในภาคอีสาน โดยมีเนื้อหาคำพูดซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทคนอีสานทั้งหมด หลังจากตรวจสอบเอกสารแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

      

       นายคารม กล่าวว่า ภาพวิดีโอการพูดของ น.ส.อรพิมพ์ บางช่วงมีเนื้อหาออกไปในทางดูหมิ่นดูแคลนคนอีสานทั่วประเทศ ตนในฐานะคน จ.ร้อยเอ็ด และเป็นคนอีสานคนหนึ่ง จึงยอมไม่ได้ที่จะให้คนที่เป็นนักพูด และมีความรู้มาพูดจาใส่ร้ายคนอีสานทั่วประเทศว่า ลืมในหลวง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จึงตัดสินใจรวบรวบหลักฐานเอกสาร พร้อมคลิปคำพูดในวันนั้นของน.ส.อรพิมพ์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามมาตราที่ 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสารภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์หรือตัวอักษรทำให้ปรากฎด้วยวิธีใดๆแผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียงบันทึกภาพ กระทำโดยการกระจายเสียงหรือการกระจายภาพหรือโดยการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่นผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ซึ่งหลังจากนี้ตนจะพาคนอีสานซึ่งเป็นผู้เสียหายในจังหวัดต่างๆเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มอีก

ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

       ทั้งนี้เมื่อวันที่15 ตุลาคม 2558 นายคารม พลพรกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ให้สัมภาษณ์กับนสพ. "ไทยโพสต์" โดยมีเนื้อหาบางช่วงว่า “ เสื้อแดงวันนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องแยกกัน อันนี้อยากพูด นปช. คงเหลือแต่ชื่อ หมายความว่าจะมารวมกลุ่มแบบเดิม น่าจะเกิดขึ้นยาก แต่คำว่า นปช.ลบไม่ได้ ก็ยังติดเหมือนเดิม เพียงแต่จะเป็นตำนานไปแล้ว การเกิดมวลชนรูปแบบนี้น่าจะไม่มี"

 

       เมื่อถามว่า ด้วยเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่เหมือนเดิม นายคารม กล่าวว่า 1.บางอย่างแกนนำพยายามทำแล้วทำไม่ได้ วิธีคิดที่รวมคนจำนวนมาก ไม่มีอะไร พอมีจำนวนมาก คนจะบอกไม่มีอาวุธจะชนะได้อย่างไร ซึ่งจริงๆ มีไม่ได้ เพราะขัดกับกฎหมาย แต่มีคนใส่ความให้มีชายชุดดำ ทำให้ นปช.แตก โดยยุทธวิธีสู้ไม่ได้ นปช.มีคนมากเหมือนการรวมตัวเมื่อ 12 มี.ค.53 ที่คนมาจากทั่วประเทศ เมื่อก่อนกฎหมายไม่มี วันนี้มีพ.ร.บ.ชุมนุม เมื่อรวมกันมาก ถูกดำเนินคดี ใครช่วย ช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถูกขัง บางคนพูดไม่เป็น ไปผิดมาตราสำคัญยิ่งหนักเลย ยิ่งมีอาวุธ ยิ่งผิดอีก อาวุธ เกิดจากคนอื่นมาไว้ให้หรือไม่ ก็ผิดอีก  “ มี พ.ร.บ.ชุมนุม สภาพของ นปช.คงกลับยาก โดยหลายปัจจัยทำให้กลับยาก ที่ไหนก็แล้วแต่เกิดไม่ได้ ” นายคารมกล่าว

ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

ถามว่า เท่าที่สัมผัสชาวบ้านและคนเสื้อแดง เขามีรู้สึกยังไงกับรัฐบาลและแกนนำ นปช. นายคารมกล่าวว่า  " คนส่วนใหญ่ เวลาไปต่างจังหวัด ยังมองเศรษฐกิจเป็นเรื่องหลัก ถ้าเอาอยู่ก็อยู่สบาย แม้จะเลือกตั้งช้า ก็เป็นการอมโรคไป ไม่ก่อปะทุ ทหารเข้ามา แรกๆ คนอาจช็อก ส่วนหลังเริ่มชิน แล้วก็มาของจริง ตอนนี้เป็นแบบนี้ ทหารอยู่ก็ไม่เป็นอะไร ก็มีเพื่อน แต่เรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหา การมาลงทุนน้อย บริโภคในประเทศลดลง ท่องเที่ยวเวลามีกฎอัยการศึก นักท่องเที่ยวหายหมด ไม่รู้ว่านายสมคิด รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะทำได้ขนาดไหน ก็อยากให้ทำได้ เพราะบ้านเมืองดี ตนดีด้วย

 

ส่วนแกนนำ นปช. เขาบอกว่าไม่อยากพูด แต่บอกได้เลยว่าเขาก็เอาตัวไม่รอด เพราะคดีก็อ่วมแล้ว ถ้าถามว่าคนยังเฮกับแกนนำ นปช.หรือไม่ ก็ไม่แล้ว เป็นอดีตคนเคยรักกัน ถ้าเป็นแฟนก็คงเหมือนคนเคยรักกัน ความรู้สึกดีๆ ก็จำไว้ แต่คงไม่กลับมาหาอีกแล้ว เพราะเป็นอดีตคนเคยรักกัน อันนี้เป็นในส่วนของแกนนำ หลายคนก็พูดถึงแกนนำไม่ดี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลารบมันแพ้ ก็มีปัญหา เหมือนสงคราม หัวหน้าพารบแพ้ก็ตำหนิหัวหน้า แต่จริงๆ มีปัจจัยหลายอย่าง ว่าเป็นตำนานไปแล้ว นปช.ไม่ใช่ภัยมั่นคง นปช.บางคนกลัวถึงขั้นไม่ใส่เสื้อแดงก็มี แต่ตนยังเหมือนเดิม เป็นทนายช่วยคน ไม่ได้แสดงบทบาทอะไรที่เป็นอุปสรรค ไม่ได้จะมาทำให้เป็นอุปสรรค " นายคารม กล่าว

ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

   อย่างไรก็ตามหลังการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายคารม ในวันที่ 26 ต.ค.58 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ออกมากล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูบ โดยระบุว่า การประกาศไม่ร่วมขบวนกับกลุ่มคนอวดเก่งบางพวกที่เน้นการต่อสู้ด้วยความสะใจ เมื่อเกิดความเพลี่ยงพล้ำแล้วทำให้ขบวนการใหญ่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เสียหาย ซึ่งเคยเกิดมาแล้วเมื่อการชุมนุมปี 2553 การจัดรายการวันนี้ ก่อนประธาน นปช. จะแสดงความเห็นต่อสถานการณ์นั้น ได้นำข่าวจากสื่อมวลชนมารายงานสาระสำคัญทั้งความเห็นของฝ่ายต่อต้าน และสนับสนุนการนัดใส่เสื้อแดงให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการรับจำนำข้าวในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกบิดเบือนคำพูดจะนัดกันเอง แล้วถูกแปลงไปเป็นพูดว่า จะสั่งเอง

       นอกจากนี้นายจตุพร ย้ำหลายครั้งว่า ฝ่ายเสี้ยมนำคำพูดไปบิดเบือน ตนไม่ได้พูดว่าจะสั่งการเอง แต่สิ่งที่พูดนั้นคือ จะนัดกันเอง เพราะเรื่องอะไรจะให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มานัด โดยในแต่ละวันนั้น ใครจะใส่เสื้อสีอะไร ก็ไม่มีใครมาบังคับได้ ดังนั้น การบิดเบือนจึงเสี้ยม ยั่วยุ นปช. กับคนเสื้อแดงให้บาดหมางกันรวมถึง นายคารม อ้างความเป็นทนายความนปช. เคยกล่าวถึงพลังองค์กร นปช. ที่มีแต่ความกลวง ไม่แน่นหนา ไร้ความเข้มแข็ง เพื่อทำให้เห็นว่า ขบวนการเสื้อแดงมีปัญหาเกิดขึ้น หากขบวนนี้มีอคติเช่นนี้แล้ว ย่อมจะเกิดผลร้ายต่ออดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์มากขึ้น

ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

       ล่าสุด นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์กรณีนายคารม เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับ เบสท์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

 

" หลายครั้งมวลชน นปช.ติดคุกติดตารางโดยไม่จำเป็น เพราะทนายเล่นการเมืองเกินสุดท้ายก็ด่าระบบยุติธรรมว่า 2 มารตรฐาน "

 

" ฟ้องคุณเบส ในทางกฏหมายหามุมชนะคดีแทบไม่มี แต่อย่างว่านี่เป็นขบวนการตีกินทางการเมืองมากกว่า "

 

" ทนายคารม นี่แกมาเพื่อพลิกกระแสช่วยคุณเบส ชัดๆ "

 

" อันนี้เจตนาหวังผลทางการเมืองมากไป และชื่อทนายก็ยิ่งชัดว่าคิดอะไรอยู่ "

ย้อนคำ"ทนายแดง"ผู้เคยชำแหละนปช.หมดไส้!!!เคยโดน"จตุพร"สวน!!! จู่ๆโผล่ฟ้องเบสท์  "สุริยะใส"ฟันธงตีกินการเมือง แค่ชื่อก็ชัดคิดอะไรอยู่ ???

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์