เจาะลึก!!! "บ. เบส มี เบส มายด์" บริษัทของ "เบส อรพิมพ์" พบจดทะเบียนเลิกช่วงปี 58 ยังไม่เสร็จการชำระบัญชี!?

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://deeps.tnews.co.th/

จากข้อมูลของ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เบส มี เบส มายด์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/29 หมู่ที่ 4 ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

แจ้งประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนรับจัดงานตามที่ประสงค์ทั้งหมด ให้บุคคล คณะบุคลคล นิติบุคคล ส่วนราชการ

มีกรรมการ 2 รายคือ น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล, นายศุภณัฐ ขวัญสุวรณ 

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 20 พฤศจิกายน 2555  น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล ถือหุ้นใหญ่สุด  6,666 หุ้น มูลค่า 166,650 บาท นาย ศุภณัฐ ขวัญสุวรรณ ถืออยู่ 3,333 หุ้น มูลค่า  83,325 บาท  นางสาว พิชชาภัทร์ ขจรพัฒน์วรกุล ถืออยู่ 1 หุ้น มูลค่า 25 บาท

เบื้องต้น บริษัทฯ ได้แจ้งจดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ ยังไม่พบว่า บริษัท เบส มี เบส มายด์ จำกัด เคยเข้าเป็นคู่สัญญารับว่าจ้างงานจากหน่วยงานราชการแต่อย่างใด

เจาะลึก!!! "บ. เบส มี เบส มายด์" บริษัทของ "เบส อรพิมพ์" พบจดทะเบียนเลิกช่วงปี 58 ยังไม่เสร็จการชำระบัญชี!?

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงกลางเดือน พ.ย. 2559 เบสท์-อรพิมพ์ เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ไม่ได้ทำงานประจำ และเพิ่งทราบว่ามีชื่อติดเครดิตบูโร จากการที่ไปร่วมกับเพื่อนซื้ออาคารและถอนตัวออกมา คนที่รับช่วงอาจมีปัญหาในการผ่อนจึงทำให้ติดเครดิตบูโรและมีชื่อตนไปเกี่ยวข้องด้วย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ ไม่อนุมัติวีซ่าเพื่อเดินทางไปพูดในสหรัฐฯ (อ้างอิงข่าวส่วนนี้จาก http://deeps.tnews.co.th/)

ก่อนที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า  ได้ตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานในกองทัพ เพื่อยืนยันข้อมูลว่า มีการว่าจ้าง นางสาวอรพิมพ์ เข้าร่วมกิจกรรม และจ่ายค่าจ้างในอัตราครั้งละ 30,000 บาท จริงหรือไม่

เบื้องต้นภายหลังการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวสามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ว่า มีหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกองทัพที่จัดกิจกรรม 4 ภูมิภาค ได้เชิญ นางสาวอรพิมพ์ มาร่วมกิจกรรมเรื่องการพูดจริง แต่ไม่ได้มีการจ่ายค่าตัวให้กับนางสาวอรพิมพ์ในอัตราครั้งละ 30,000 บาท แต่อย่างใด

"การเชิญนางสาวอรพิมพ์ มาร่วมกิจกรรมของหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของกองทัพดังกล่าว เจ้าหน้าที่รายงานว่า ไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ เป็นการเชิญมาร่วมในลักษณะจิตอาสา เพื่อพูด ซึ่งเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ให้ผู้เข่าร่วมกิจกรรมได้รับฟัง ซึ่งนางสาวอรพิมพ์ ก็เดินทางไปร่วมด้วยจริง เพราะมีความตั้งใจอยากไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมที่ปรากฎ เป็นค่าเดินทาง ค่าจัดเตรียมสถานที่ ค่าเครื่องดื่มอาหารว่าง แต่ไม่มีการจ่ายค่าตัวให้กับนางสาวอรพิมพ์แต่อย่างใด "

นายพิศิษฐ์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับหน่วยงานที่มีการจัดงานและเชิญนางสาวอรพิมพ์ ไปพูดและปรากฎหลักฐานยืนยันว่ามีการจัดค่าตอบแทนให้กับวิทยากร เท่าที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ส่วนค่าตัวที่จ่ายให้ก็อยู่ในเกณฑ์การว่าจ้างบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเรื่องการพูด ซึ่งระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร เปิดช่องให้ทำได้ ขณะที่ตัวเลข 30,000 บาท ก็ถือว่าไม่สูงหากเปรียบเทียบกับอัตราว่าจ้างนักพูดชื่อดังซึ่งบางรายคิดค่าตัวเป็นหลักแสนบาท

 

 

 

เรียบเรียง : ทีมข่าว DEEPS TNEWS

ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา