ริอาจทำอาชีพเสริม..โดนซะ!!! รวบ 3 หนุ่มขนยาบ้ารับจากม้งเหนือนำขายต่อภาคใต้ ใช้แแท๊กซี่บังหน้ายึดยาบ้า2.3แสนเม็ดค่ากว่า 60 ล้าน !!?!!

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รรท.ผบช.ปส. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.1 บก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.2 และเจ้าหน้าที่ นปส.อุดรธานี ทำการจับกุม ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 2 คดี ได้ผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 4 ราย พร้อมของกลางยาเสพติด(ยาบ้า)จำนวน 230,000 เม็ด รถยนต์จำนวน 3 คัน

 

     พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า สำหรับคดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.1 บก.ปส.3 ได้ทำการจับนายวันดี ใจกล้า อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 79/317 หมู่ 3 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายพลากร ทิสคุ้ม อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 58/56 ซ.นวละออ ต.ปากเกล็ด อ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี และนายไพริน แดงสี อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ที่ 4 ซ.นวละออ ต.บางเดช อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาเสพติด จำนวน 230,000 เม็ด รถแท็กซี่เขียวเหลือง ทะเบียน 1 กม 2677 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์กระบะอีซูซุสีดำ 1 คัน

     การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายวันดีอาชีพขับรถแท็กซี่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดฯ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี, ปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง จึงได้สืบสวนติดตามดูพฤติกรรม ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบนายวันดี และนายพลากร กำลังขนถุงเป้สีเขียว จำนวน 2 ถุง ออกจากบ้านพักในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นำมาใส่ไว้บริเวณท้ายรถแท็กซี่แล้วขับออกไปโดยมีนายวันดี เป็นคนขับ และนายพลากร นั่งมาด้านหน้าคู่คนขับ

 

     พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตาม โดยใช้ถนนกาญจนาภิเษกขาออก มุ่งหน้าปทุมธานี กระทั่งมาถึงบริเวณหน้าบ้านเลขที่10/7 หมู่ 4 ถ.รังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น พบยาเสพติด(ยาบ้า)ของกลางจำนวน 95 มัด บริเวณที่เก็บของท้ายรถแท็กซี่ พร้อมขยายผลตรวจยึดของกลางยาบ้าเพิ่มเติมจำนวน 20 มัด ได้ที่บ้านพักของนายวันดีในเวลาต่อมา จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ไปทำการสอบสวนจนทราบว่าได้มีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติดกันที่บริเวณริมถนนรังสิต-นครนายก โดยเตรียมนำยาบ้าไปส่งมอบให้กับนายไพริน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบตัวนายไพรินจอดรถยืนรออยู่บริเวณริมถนนสายดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

     จากการสอบสวน นายวันดี ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริงโดยรับมาจากเอเย่นยาเสพติดเครือข่ายม้งเพื่อทีาจะนำมาปล่อยให้กับเอเย่นต์ยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้อีกที เช่นเดียวกับนายไพรินที่ให้การรับสารภาพว่าต้องการนำยาเสพติดไปปล่อยให้กับเอเบ่นต์รายย่อยในพื้นที่ภาคใต้แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนนายพลากรยังคงให้การภาคเสธโดยรับเพียงว่าเป็นคนช่วยยกกระเป๋าเป้ที่บรรจุยาเสพติดและนั่งรถมาเป็นเพื่อนเท่านั้นโดยไม่รู้ว่าภายในกระเป๋าเป้ดังกล่าวมียาเสพติดซ่อนอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่า “มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

     พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่สอง เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.2 และเจ้าหน้าที่ นปส.อุดรธานี ได้ร่วมกันทำการจับกุม Mr.Huu Tu Tai ชาวเวียตนาม หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บก.ปส.2และเจ้าหน้าที่ นปส.อุดรธานี ได้ทำการตรวจยึดเฮโรอินจำนวนประมาณ 16.79 กก. จึงได้สืบสวนขยายผลจนทราบแน่ชัดแล้วว่า Mr.Huu Tu Tai คือเจ้าของเฮโรอีนดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับในเวลาต่อมา กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.หนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จว.หนองคาย ว่าพบ Mr.Huu Tu Tai กำลังจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจึงได้นำกำลังเข้าไปทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าวพร้อมกับตรวจยึดทรัพย์สิน คือรถยนต์ยี่ห้อเชอรี่ (CHERY) สีขาว ทะเบียนรถ กส 6201 กำแพงนครเวียงจันทร์ ราคาประเมินเบื้องต้น 400,000 บาท

 

     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดประเภท 1 เฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” ตามหมายจับก่อนส่งตัวพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับเสนอ เลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาออกคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ.2534 ต่อไป