ไส้กี่ขดค่อยๆสาวไป!!รวบอดีตกำนันคนดังร่วมก๊วนเจ้าพนักงานที่ดินฉาวสวมโฉนดทะเลอุทยานฯภูเก็ตขายนายทุนฟัน500ล้าน

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิต ผกก. สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2559 ได้รับการประสานจาก ชุดสืบสวนสะกดรอย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังเข้าจับกุม นายสมมิตร สืบสิน อดีตผู้ใหญ่บ้าน อดีตกำนันเชิงทะเล และ อดีต สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (ส.อบจ.ภูเก็ต) ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งได้สั่งการให้ รอง ผกก. สืบสวน เข้าร่วมจับกุมและนำมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เชิงทะเล หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำตัวเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร “เท่าที่ทราบคดีนี้ เกิดตั้งแต่ ปี พ.ศ.2544 ตั้งแต่ผมยังเป็นร้อยตำรวจโทอยู่ในพื้นที่ป่าตอง”
 

     คดีนี้นายอำเภอถลาง นายก อบต.เชิงทะเล และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ใช้อำนาจหน้าที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ชายหาดต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในเวลาต่อมาคณะกรรมการคดีพิเศษ มีความเห็นรับเป็นคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนสอบสวนจนพบว่า นายสมมิตร ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กรมที่ดิน คือนายณรงค์ อุ่นเสียม อดีตช่างรังวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายยุหาด พัฒนสุรีย์ อดีตหัวหน้าช่างรังวัด และนายธวัชชัย อนุกูล อดีตหัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ที่เสียชีวิตแล้ว ร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ชายหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
 

     ซึ่งจากข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์พบว่า พื้นที่ดังกล่าวในอดีต เป็นพื้นที่ทะเล แต่หลังจากที่สภาพนิเวศน์ทะเลเปลี่ยน พื้นที่งอกออกจากถนนสาธารณะ กลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดก็ได้ใช้ สค.1 บินมาสวมทับโดยการแก้ไข แนวเขตข้างเคียง ให้ตรงกับสภาพพื้นที่ ซึ่งมีพิรุธและ เมื่อพนักงานสอบสวนนำภาพถ่ายทางอากาศมาเปรียบเทียบเชิงซ้อนกันหลายปี จึงพบมูลความจริงเป็นประจักษ์ชัดจึงได้เสนอสำนวนการสอบสวนต่อศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง และศาลได้พิจารณาจากพยานหลักฐานแล้วจึงมีความเห็นออกหมายจับให้ดังกล่าว

 

     การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่จับตาของกลุ่มประชาชนในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากทราบดีว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินงอกซึ่งน่าจะต้องเป็นสาธารณะ ขณะเดียวกันที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ใกล้กับที่ดินของนายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ อดีต รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังในอดีต และ หลังจากมีการออกเอกสารสิทธิ์แล้ว ที่ดินแปลงนี้ ถูกแบ่งเป็น 2 แปลง ๆ หนึ่งขายให้กับชาวต่างชาติและนำไปพัฒนาเป็นโรงแรมริมหาดหรู มูลค่า ไม่น้อย กว่า 500 ล้านบาท และ อีกแปลงหนึ่ง ได้ขายฝากให้กับบริษัทผลิตเครื่องจักรกลเครื่องมือการเกษตรระดับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย รวมสองแปลงและพร้อมทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 600 ล้านบาท

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : สำนักข่าวอิศรา