พ้นดีเอสไอไปแล้ว...!!! เรื่องประกัน"พระธัมมชโย"ได้หรือไม่อยู่ที่อัยการและศาล...ต่อไปนี้จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง...!!! (รายละเอียด)

ติดตามข่าวสาร www.tnews.co.th

ความคืบหน้าจาก กรณีเมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม 59 )วัดพระธรรมกายยื่นข้อเสนอเรื่องการประกันตัวจากการเจรจาครั้งล่าสุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมคณะไปกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เพื่อดำเนินการให้พระธัมมชโยมอบตัวในคดีสมคบกันฟอกเงินร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร

ล่าสุด (3 ธันวาคม 59)ทางด้านของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า การเจรจาของพศ.ยังไม่ได้ข้อยุติ หลังจากนี้ได้รับการประสานว่านายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ.จะต้องเข้าไปหารือกับวัดพระธรรมกายอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน-เวลา ในส่วนของดีเอสไอที่เดินทางร่วมคณะไปด้วยก็เพื่อเข้าไปชี้แจงว่าสิ่งใดที่ทำได้ และสิ่งใดทำไม่ได้เท่านั้น

 

ซึ่งการเจรจาเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองฝ่ายสงฆ์ยืนยันว่าการพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้พ้นจากอำนาจของดีเอสไอไปแล้ว ในขั้นตอนนี้อัยการจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการให้ประกันตัว

ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษสำนักการสอบสวน 3 หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงิน กรณีพระธัมมชโยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายรับเช็คบริจาคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกล่าวว่า ข้อเสนอทางวัดที่ระบุว่าจะมอบตัว แต่มีเงื่อนไขต้องได้ประกันตัวนั้นส่วนตัวมองว่าตามขั้นตอนของกฎหมายอำนาจการให้ประกันตัวไม่อยู่ในชั้นของดีเอสไอแล้ว เพราะขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการ ดีเอสไอมีหน้าที่เพียงการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนแล้วส่งตัวให้อัยการ ซึ่งจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจว่าจะให้ประกันตัวในชั้นนี้ หรือส่งศาลเป็นผู้พิจารณา กรณีได้ตัวผู้ต้องดีเอสไอทำได้เพียงไม่คัดค้านการประตัวเท่านั้น การต่อรองประกันตัวในชั้นนี้จึงเป็นไปไม่ได้

        

อย่างไรก็ตามเห็นว่าควรต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ 1.ขอหมายค้นและเข้าจับกุมตามหมายจับ ซึ่งแนวทางนี้มีความกังวลเรื่องเผชิญหน้ามวลชนเกรงสถานการณ์บานปลายควบคุมไม่ได้ และ2.การดำเนินการกับคณะสงฆ์ผู้ปกครองและพระในวัดโดยเฉพาะรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายซึ่งมีอำนาจปกครองวัด ในขณะนี้มีหน้าที่ต้องส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน หากไม่สามารถทำได้ และจำเป็นต้องเข้าค้นพระก็ต้องเป็นผู้นำทางเข้าตรวจค้นด้วย หากไม่ให้ความร่วมมือต้องเอาผิดตามกฏหมายในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยสัปดาห์หน้าคณะพนักงานสอบสวนจะหารือเพื่อดำเนินการตามแนวทางที่มีอยู่

 

อย่างไรก็ตามกรณีการเอาผิดพระที่ไม่ให้ความร่วมมือส่งตัวผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดีนั้นจะแยกคดีกันระหว่างดีเอสไอและตำรวจ

 

เรียบเรียงโดย : วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์