อีกบาดแผล "สื่อบิดเบือน" !!! เพจดังร่วมลากไส้บก.บีบีซีไทยเคยร่วมวงเสวนาก๊วนต้านม.112 ตัดตอนคำร้องขอรัฐบาล+คสช.เพื่อความสงบปท.ให้คนเข้าใจสื่อโดนทหารข่มขู่ ??

 

เกาะติดกันต่อเนื่องสำหรับพฤติการณ์ของบีบีซีไทย  ที่วันนี้สนข.ทีนิวส์พิสูจน์ให้สาธารณชนประจักษ์ว่า  สำนักข่าวแห่งนี้อาจไม่ใช่สื่อมวลชนที่มีเจตนาดีต่อประเทศไทย ในทางตรงข้ามมีหลายแง่มุมแสดงให้เชื่อได้ว่าบีบีซีไทยกำลังสวมหมวกอีกใบหนึ่งในฐานะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ที่มีทัศนคติการทำงานเช่นเดียวกับกลุ่มนักวิชาการอย่าง “นิติราษฎร์”   และเครือข่ายระบอบทักษิณ    ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหลักการสำคัญตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112   ?? 

 

ต่อประเด็นดังกล่าวในเพจเฟซบุ๊ก  “ปราชญ์ สามสี”   ได้โพสต์ข้อความที่มีสาระสำคัญบางช่วงบางตอนไว้ดังนี้    “  บก.บีบีซีไทย กับ การต่อต้านกฎหมายคุ้มครองสถาบันฯ”  ...“ภายหลังวันกราบบังคมทูลอัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เพียง ๑ วัน  ก็ดูเหมือน "คลื่นใต้น้ำ" ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ จะพยายาม"ยั่วยุ"ประชาชนชาวไทย ในช่วงเวลาสำคัญอีกแล้ว

 

ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ อย่าง BBC ไทย เริ่มเผยตัวออกมามากแล้วโดยเฉพาะการพยายาม สนับสนุน การใส่ร้ายสถาบัน อย่างแจ่มชัด และเห็นได้ชัดแจ้งว่ามีการพยายาม "เสี้ยม"ประชาชน อย่างชัดเจน ... จนกลายเป็นว่า BBCไทย กลายเป็นประเด็นสังคมที่"ร้อนฉ่า" เพราะผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควร กับท่าทีของBBCไทย ที่"หยาบ"ได้โล่

 

ข้าพเจ้าจึงสนใจมากว่า การที่ "บทความ"  ที่เผยแพร่อยู่ในปัจจุบันฯนี้ ผ่านการอนุมัติจาก บรรณาธิการ BBC ไทย ออกมามาได้อย่างไร? เรื่องนี้ นายนพพร วงศ์อนันต์ บรรณาธิการ BBC ไทย ควรออกมารับผิดชอบนะครับ !!!

นาย นพพร วงศ์อนันต์ บรรณาธิการ BBC ไทย ,มีประวัติเคยเป็นถึงอดีต บรรณาธิการ นิตยสารฟอร์บส์ ประเทศไทย ,และอีกหลายแห่ง... เมื่อสืบปูมหลังก็ร้องอ๋อ เพราะ นาย นพพร วงศ์อนันต์  (ในเวลานั้นยังไมได้เป็น บ.ก.ของBBCไทย)   ก็ยังเคยร่วมเสวนา กับ นาง จีรนุช เปรมชัยพร (ผู้อำนวยการเว็ปไซต์ข่าวออนไลน์ประชาไท), นาง กุลชาดา ชัยพิพัฒน์ (เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAPA)) และ นาย อนุธีร์ เดชเทวพร (ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวี ) และ สตีฟ เฮอร์แมน กรรมการบริหารสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยและเป็นหัวหน้าสำนักข่าวประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของวอยซ์ออฟอเมริกา ในกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “สื่อไทยมีเสรีภาพเพียงใดในปัจจุบัน” (How Free is Thailand’s Media Now) เนื่องในวันเสรีภาพสื่อโลก และ ครบสองปีหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ยึดอำนาจ เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา โดยมี สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เป็นเจ้าภาพ 

 

 

 

(หมายเหตุ : สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT)  เป็นสถานที่เดียวกับที่   นายเกล็น ทาวน์เซนต์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย  ได้กล่าววิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย  โดยมีข้อความที่สำคัญว่า ป.อาญา ม.112 เป็นกฎหมายที่ขัดขวางเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน  การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุก  และศาลไทยยังได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยด้วยความรุนแรงยาวนานเกินไป เมื่อวันที่  25 พ.ย.2558 )  

 

โดยในครั้งนั้น  ระหว่างการอภิปราย จีรนุชได้ลุกขึ้นยืนและเชิญชวนให้ผู้ฟังสังเกตเสื้อยืดที่เธอตั้งใจใส่มาสำหรับงานวันนั้น ที่มีคำว่า “FREE SOMYOT” และเล่าว่า สมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ที่ถูกคุมขังมา ๕ ปีด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ ม. ๑๑๒

 

จีรนุช ยกตัวอย่างคดีของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข กรณีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง  โดยอ้างว่า สื่อมวลชน ที่ถูก"จำกัดเสรีภาพ" โดย กสทช. ..

***
 

ซึ่งในกรณี ที่ จีรนุชกล่าวอ้างนั้น "ข้าพเจ้า" ขอชี้แจงนะว่า ในความเป็นจริงแล้ว คดีของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข นั้น มันไม่ไช่เรื่อง"จำกัดเสรีภาพ" แต่มันเป็นเรื่องของการ"โกหกซึ่งเป็นต้นเหตุของอาชญากรรม" ซึ่งในกรณี Voice of Taksin นั้น ผู้เขียนบทความใส่ร้ายสถาบันฯนั้นก็คือ นาย จักรภพ เพ็ญแข โดยใช้นามปากกา จิตร พลจันทร์ นั้นเอง แต่ก็ได้หลบหนีกฎหมายอยู่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้น บรรณาธิการ  Voice of Taksin ในขณะนั้น คือ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ก็ต้องรับผิดชอบความผิดไป

***

เพราะฉะนั้นการที่ จีรนุช ยกตัวอย่างคดีของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข หมิ่นสถาบันฯ มาอ้างความชอบธรรมในการโจมตี สถาบันเบื้องสูงนั้นย่อมเป็นเรื่อง ยอมรับๆไม่ได้ครับ...

 

แต่การ ที่ จีรนุช ออกมาดิ้นๆ เรื่อง ม.๑๑๒ ทำร้ายคนหมิ่นสถาบันฯ  ในขณะที่ นาย นพพร บ.ก. BBCไทยไปนั่งสลอนอยู่ตรงนั้น ก็พอจะทำให้รู้แล้วว่า"....อ๋อ ... ที่แท้ มันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง"

 

( หมายเหตุ  :   ในวันดังกล่าว   นพพร วงศ์อนันต์  รองบรรณาธิการบางกอกโพสต์   กล่าวถึงสถานการณ์ไม่ปกติของสื่อในช่วงสองปีหลัง คสช. ยึดอำนาจว่า “การรัฐประหารครั้งนี้ต่างจากสองครั้งที่แล้วคือ หัวหน้า คสช. กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีเอง และไม่มีสัญญาณใดที่จะบอกว่าเขาจะอยู่ในอำนาจนานเท่าใด  หัวหน้า คสช. มีอำนาจเต็มที่ในการใช้มาตรา 44 ในการการกระทำต่างๆ รวมทั้งการปิดสื่อ หลังรัฐประหาร เราถูกเชิญ รวมทั้งสื่อ และ บรรณาธิการของสื่ออื่น ๆ ไปทำความเข้าใจ โดยข้อความที่ คสช. พยายามสื่อออกมาคือ “อย่าคัดค้าน” หรือ “อย่าพยายามทำให้ประชาชนคัดค้าน หรือพยายามโค่นล้ม คสช.”  )

 

เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้อย่า "ตกหลุมพราง" ของคนบางคนที่พยายามทำให้วันสำคัญมัวหมอง ประชาชนไทยเวลาควรให้ความสำคัญกับความสามัคคีของคนในชาติ ดีกว่าจะมายุ่งกับพวก ยุแยงตะแคงรั่วเช่นนี้

 

ส่วนกรณี บทความ ที่ทำร้ายจิตใจประชาชนคนไทย ที่ปรากฎใน สำนักข่าว BBCไทย นั้น ก็ควรได้รับความรับผิดชอบทางกฏหมายจาก บรรณาธิการ BBC ไทย เช่นกัน ???

 

เรียบเรียงข่าว : ชัชรินทร์  สำนักข่าวทีนิวส์