"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

๕ ธันวามหาราช' มหาชนรวมใจ

 

 

 

       พสกนิกรไทย "รักในหลวงรัชกาลที่ ๙" ฉันใด ก็ "รักในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ฉันนั้น นั่นมิใช่ "รักเผื่อแผ่" หากแต่เป็นรักแท้-รักบริสุทธิ์ เป็นรักสืบสายใย "เสมอต้น-เสมอปลาย" จากต้นธาร อันเรียกว่า "ด้วยรักและภักดี"

 

       ย้อนไป เมื่อ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ในหลวงรัชกาลที่ ๙ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" มีพระปฐมบรมราชโองการ ณ วันบรมราชาภิเษก นั้น ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

       และเมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ นี้ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร" ทรงตอบรับการขึ้นเป็น "ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"

โดยมีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์ ครั้งนี้ ว่า “ ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของ 'พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร' และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับ เพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง ”

 

       จะเห็นว่า การขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ของ "ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" นี้ ทรงตอบรับด้วยเหตุ ๒ ประการ

ประการแรก "ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของ 'พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร' "

ประการที่สอง "เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" นั่นคือ ทรงตอบสนองคำเรียกร้องปวงชนชาวไทยส่วนหนึ่ง กับทรงเอื้อเฟื้อต่อกฎมณเฑียรบาลและรัฐธรรมนูญอีกส่วนหนึ่ง

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

       แต่โปรดสังเกต.........ในพระราชดำรัสตอบรับ เมื่อทรงปรารภเหตุแล้ว พระองค์ตรัสบอกถึงพระราชปณิธานของพระองค์ให้ประชาชนได้ทราบด้วยว่า เมื่อทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว จะทรงมุ่งแนวทางใด ในการครองแผ่นดิน?

 

       พระองค์ตรัสบอกชัด.............."ข้าพเจ้าขอตอบรับ เพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง”

 

       คำว่า "เพื่อสนองพระราชปณิธาน" คนละประเด็นกับ "พระราชประสงค์" ที่หมายถึงการขึ้นครองราชย์ โปรดเข้าใจให้ชัด ส่วนคำว่า "เพื่อสนองพระราชปณิธาน" นั้น หมายถึง ๗๐ ปี ที่ผ่านมา.......ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม เช่นใด "ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ก็จะ "ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม" สืบต่อ สนองพระราชปณิธาน "ในหลวงรัชกาลที่ ๙" "เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวงต่อไป"

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

       และหลังจากวันทรงตอบรับการขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แล้ว รุ่งขึ้น วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๙

"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร" ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ที่กราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี เป็น "ประธานองคมนตรี" ต่อไป ดังที่กล่าวเป็นสังเขปนี้...........เป็นสิ่งยืนยันถึงพระราชปณิธานในการ "ครองแผ่นดิน" เพื่อประโยชน์ "ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง" ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สืบต่อจาก "ในหลวงรัชกาลที่ ๙" เด่นชัด

 

       และวันนี้ ๕ ธันวาคม "วันเฉลิมพระชนมพรรษา" พ่อของเรา-พ่อของแผ่นดินไทย "ในหลวงรัชกาลที่ ๙" เวียนมาอีกครั้ง

จะอยู่ในแผ่นดินรัชกาลไหนๆ "รัชกาลที่ ๙" คือ "พ่อของแผ่นดิน-พ่อของคนไทย" ตลอดกาล-ตลอดไป ตราบประเทศไทยยังอยู่คู่กับโลก พ่อเสด็จสู่โลกมนุษย์ บำเพ็ญทศบารมีธรรม และบัดนี้ คืนสู่ทิพย์ มุ่งแดนพุทธภูมิ ด้วยบารมี ๓๐ ทัศ จะเสด็จกลับลงมาโปรดโลก-โปรดสัตว์ ณ กาลข้างหน้า

 

       ฉะนั้น เรา...ชาวประชา อาลัยใน "พระผู้เป็นพ่อ" พระผู้จากไปได้ แต่อย่าโศกเศร้า ร้องร่ำรำพันกันไปเลย พ่อหลวงไม่ได้จากไปไหน พ่อหลวงเป็น "หน่อเนื้อพุทธางกูร" พระผู้ประเสริฐยิ่งแล้ว

 

        เราจงบูชาท่านด้วยเครื่องสักการะส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ และพ่อของเราจะทรงพอพระราชหฤทัยในสิ่งนี้มาก "ปฏิบัติบูชา" คือ น้อมนำคำที่พ่อทรง "พร่ำสอน-พร่ำบอก" มายาวนานตลอด ๗๐ ปี ไปประพฤติ-ปฏิบัติตามนั้น ให้สม่ำเสมอ รักสามัคคี, พอเพียง

 

       ลูกๆ คือพวกเราทุกคน ทำได้แค่ ๒ อย่างนี้ ประเทศไทย ก็จะเป็นสวรรค์อีกชั้นหนึ่งในโลกมนุษย์แล้ว ทั้งหมดที่พ่อสอนมา ๗๐ ปี พ่อไม่ได้สอนให้ใครทำเพื่อพ่อเลย ทั้งหมด ๔,๔๔๗ โครงการ ที่พ่อทำ พ่อไม่ได้ทำเพื่อพ่อเองเลย ฉะนั้น วันนี้ ตลอด ๗๐ ปี เราปลาบปลื้มยินดี ถวายพระพรให้พ่อ "จงทรงพระเจริญ" มาตลอด พระพรก็ย้อนสนอง พสกนิกร คือประเทศชาติ ประชาชนก็เจริญตามลำดับมา

 

       พ่อหลวงของเรา ก็ทรงเจริญในขั้นบารมีธรรมที่ทรงบำเพ็ญตลอดมา  มาปีนี้ ๕ ธันวา ๕๙ เราไม่เหงาใจ เพราะเรามี "พระเจ้าอยู่หัว" พระองค์ใหม่ จากชาติเชื้อเนื้อกษัตริย์ ขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว แต่เรา-มวลพสกนิกร ยังหักอาลัยที่จะไม่คิดถึงพ่อไม่ได้ พร้อมใจกันว่า "๕ ธันวา" ของทุกปี คือวันที่ลูกๆ ชาวไทย พร้อมถวายใจภักดิ์ ด้วยรักและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อ ที่มีต่อทั้งพสกและทั้งมวลมนุษยชาติ

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

 

 

       กายเป็นเพียงที่อาศัยของจิต เมื่อพ่อสละกาย จิตพ่อนั้นอยู่ เฝ้าดูประเทศไทย ดูลูกๆ คือมวลพสกนิกรไทย ลูกๆ ถวายคำสัตย์ต่อพ่อ......ลูกจะเป็นคนดีบ้าง, ลูกจะทำตามคำสอนพ่อบ้าง, ลูกจะรักสามัคคีตามพ่อบอกบ้าง

 

       ลูกทั้งหลายมั่นใจ จะไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ชาติ จะไม่บ่อนทำลาย-ทำร้ายชาติ จะทำนุบำรุงพระศาสนา และพิทักษ์ดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์ ลูกทั้งหลายจะทำดี........ "ทั้งต่อแผ่นดิน-ทั้งต่อตัวเอง" มิให้พ่อต้องทรงเป็นห่วง เป็นบ่วงคล้องพระบาทพ่อ ประหนึ่งมาร หน่วงมิให้การบำเพ็ญสู่พุทธภูมิของพ่อสำเร็จโดยง่าย!

 

       และลูกๆ ทั้งหลาย ขอถวายคำสัตย์ว่า จะเป็นพสกนิกรที่ดีของ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร" พระผู้ทรงตอบรับในการขึ้นครองราชย์ว่า "เพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง” เมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ จะเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ นอกจากรักษาแผ่นดินแล้ว ยังพร้อมกำจัดภัยแผ่นดิน ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะจากกลุ่มบุคคลทั้งในชาติและนอกชาติที่จ้องทำลาย สร้างความขัดแย้ง-แตกแยกให้แก่สถาบัน และแก่บ้านเมือง มิหยุด-มิหย่อน แม้ขณะนี้ ที่มันเริ่มอีกแล้ว!

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

      จะเป็นพุทธบริษัทที่ดี ดำเนินชีวิตในเส้นทางธรรม ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เกื้อกูลหมู่สงฆ์ผู้ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ และในความเป็นพุทธบริษัท......จะขจัดมารและศัตรูศาสนารูปแบบต่างๆ รวมทั้งผู้แฝงเข้ามาคลุมผ้าเหลือง "บิดพระธรรม-ยำพระสงฆ์" เอาศาสนาเป็นแหล่งหากิน

 

      แผ่นดินนี้ พูดได้ว่า เป็นแผ่นดินของพ่อ เพื่อพสกนิกรไทยทั้งมวล และบัดนี้ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร" ทรงสืบต่อพระราชบัลลังก์จากพ่อแล้ว พสกนิกรไทยทั้งมวล จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ "ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น

 

 

๕ ธันวานี้ .........

 

เป็น ๕ แห่งมหาฤกษ์ "เบิกใจภักดิ์" มวลพสก มั่นคงต่อชาติ-พระศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์ ณ ครั้ง แผ่นดินพ่อ เช่นใด

 

ณ "พระเจ้าแผ่นดิน" รัชกาลที่ ๑๐ นี้ ก็...

 

มั่นคง-ตรงมั่น เช่นนั้น

"จงรักภักดีในพ่อหลวงปานใด ก็จงรักและภักดีต่อ"ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐" ปานนั้น เมื่อ"70ปีพระราชปณิธานได้สานต่อเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนไทย"

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์