แถลงการณ์ "สำนักข่าวทีนิวส์" กรณี "วัฒนา เมืองสุข" โพสต์ FB พาดพิง+ดิสเครดิตการตีแผ่ขบวนการล้มเจ้า .. "ไม่มีมูล" ???

จากการที่นายวัฒนา เมืองสุข   แกนนำพรรคเพื่อไทย  และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลไทยรักไทย   ได้พาดพิงถึงสำนักข่าวทีนิวส์ ดังปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะชนทั่วไป ...

 

"วัฒนา" โพต์ถึง "ทีนิวส์-ไทยโพสต์" อ้างใส่ร้าย "ทักษิณ" พาดพิงสถาบัน จี้รัฐบาลจัดการ ...

http://deeps.tnews.co.th/contents/216417/

 

 

สำนักข่าวทีนิวส์ที่   สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม   เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของ จึงขอย้ำให้แฟนข่าวและผู้รับข่าวสารได้ทราบถึงจุดยืนและอุดมการณ์ของสำนักข่าวทีนิวส์ ว่า ...

 

1. นอกเหนือจากอุดมการณ์และจิตวิญญานของการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่ดี ชัดเจนว่าสำนักข่าวทีนิวส์มีอุดมการณ์หนึ่งที่สำคัญยิ่งคือ ความเทิดทูน เคารพ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้นำเสนอข่าวสารของบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมคุกคาม จาบจ้วง ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง มาตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2550 และตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นต่อให้ต้องเผชิญความลำบากทั้งทางการเมืองหรือทางธุรกิจหนักหนาเพียงใดก็ตาม สำนักข่าวทีนิวส์ก็ไม่เคยคลอนแคลนจากจุดยืนและอุดมการณ์ที่ว่านี้

 

2. สำนักข่าวทีนิวส์และกลุ่มพี่น้องประชาชนคนไทยผู้ร่วมอุดมการณ์แห่งความจงรักภักดีได้ร่วมกันจัดตั้ง "เครือข่ายเฝ้าระวังเพื่อพิทักษ์และปกป้องสถาบัน" อันเป็นการขยายอุดมการณ์ไปสู่ภาคปฏิบัติ ซึ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้สังคมเกิดความตื่นตัวและร่วมกันเป็นหูเป็นตาเพื่อสถาบันที่เราเคารพรักด้วยกัน

 

3. พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่คุกคาม จาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันที่ปรากฏเป็นข่าวมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา  บางส่วนเป็นการเคลื่อนไหวของบุคคลนอกประเทศ   บางส่วนเป็นการเคลื่อนไหวของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนายทักษิณ ชินวัตร  หรือ บางส่วนอาจก่อให้ข้อสงสัยได้ว่า พฤติกรรมของนายทักษิณ ชินวัตร  เองอยู่ในข่ายสนับสนุนให้เกิดการกระทำในลักษณะดังกล่าวด้วย  ดังปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้

 

กรณีที่ 1: นายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาท ในคดีหมายเลขดำ อ.1824/2558 ซึ่งกองทัพบกเป็นโจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 19 -22 พฤษภาคม นาย ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์จากประเทศเกาหลี โดยเนื้อหาการสัมภาษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์จากประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการยึดอำนาจของ คสช. กระทบต่อ องคมนตรี และทหาร ที่หมายถึงกองทัพบก รวมทั้งกล่าวหาว่าโจทก์ชื่นชอบประชาธิปไตยแบบประเทศพม่าซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ซึ่งศาลอาญาได้รับฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2558

 

 

กรณีที่ 2 : จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล ที่ 1 ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ 2 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองที่ยกเลิกหนังสือเดินทางรวมสองฉบับ โดยศาลได้ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของนายทักษิณ ที่ได้ไปสัมภาษณ์ สำนักข่าวซูซัน ของ ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21พฤษภาคม 2558 ซึ่งถ้อยคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาบางส่วนพาดพิงบุคคลตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศไทยได้

 

กรณีที่ 3 : ศาลฎีกาพิพากษายืนไม่รับฟ้องคดีที่นายทักษิณฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีให้สัมภาษณ์ระบุ “ทักษิณ” อยากเป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 52 ซึ่ง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะที่สมัครใจเข้ามารับตำแหน่งทางการเมืองเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญ มีทั้งอำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศ และต้องรับผิดชอบจากการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบสูงกว่ามาตรฐานของบุคคลทั่วไป ทั้งถ้อยคำของจำเลยที่ให้สัมภาษณ์ก็มิได้ปรุงแต่งข้อเท็จจริง แต่มีผลต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาโดยตลอดจากการกระทำของโจทก์เองและกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุน อาทิ โจทก์เคยพูดต่อข้าราชการ กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง และกลุ่มคนขับแท็กซี่ว่า ผู้มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ แทรกแซงองค์กรอิสระ และศาล

 

 

นี่เป็นตัวอย่างส่วนน้อยที่สำนักข่าวทีนิวส์รายงาน วิเคราะห์ ตั้งคำถามกับพฤติกรรมเหล่านี้บนหลักฐาน ข้อเท็จจริงตามกระบวนวิธีของการนำเสนอสื่อสาธารณะและเป็นไปใต้กรอบของ กม. มาโดยตลอด มิใช่การให้ข้อมูลเท็จ ใส่ร้าย หรือ กลั่นแกล้งกันแต่อย่างใด

 

4. พฤติกรรมคุกคาม จาบจ้วง ล่วงละเมิดนี้ มามาตั้งแต่ กปปส. ก่อกำเนิด    กปปส ถือกำเนิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2556   เป็นการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่รักชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน และภายหลังจากที่ กปปส ยุติบทบาทลงไป กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวก็ยังมีอยู่ การนำเสนอข่าวเรื่องบุคคลละเมิดเบื้องสูงของสำนักข่าวทีนิวส์ก็ยังเป็นไปดุจเดิมที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2550

 

 

การนำเสนอข่าวสารของสำนักข่าวทีนิวส์ในเรื่องขบวนการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและมุ่งหวังเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศสู่ระบอบสาธารณรัฐนั้น ไม่ใช่เพราะมี สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม เป็นเจ้าของและเป็นผู้ก่อตั้ง หรือไม่ใช่เพราะ สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม เป็นกรรมการของ กปปส. ตามที่นายวัฒนากล่าวอ้างมาแต่อย่างใด

 

แต่เป็นเพราะ "ขบวนการที่มุ่งหวังล้มล้างเบื้องสู่เปลี่ยนแปลงการปกครองมีอยู่จริง อันปรากฏหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริง ซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง"

 

 

ซึ่งตัวนายวัฒนา เมืองสุขเอง ก็ควรจะพึงสำนึกถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวเหล่านี้ก่อนที่จะมากล่าวหาในจิตเจตนาของสำนักข่าวทีนิวส์ดังที่ปรากฏ และเพื่อให้ชัดเจนและเข้าใจในจุดยืนนี้ทั้งต่อนายวัฒนาเอง และต่อสาธารณะ สำนักข่าวทีนิวส์จะได้ลำดับให้เห็นถึงข้อเท็จจริงของการมีอยู่ของขบวนการล้มเจ้า และการเคลื่อนไหวของพวกนี้อีกครั้งดังจะได้นำเสนอต่อไป

 

 

ย้ำว่าการนำเสนอดังกล่าวมิใช่การใส่ร้ายหรือการเชื่อมโยงใครคนหนึ่งคนใดเข้ากับขบวนการล้มเจ้าโดยปราศจากหลักฐาน ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ แต่เป็นการนำเสนอข่าวสาร ตามหน้าที่ของสื่อมวลชน  เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความเคลื่อนไหวของผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ด้วยเจตนาแห่งความเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้าและจิตใจที่รักชาติรักแผ่นดินโดยเสมอมา

 

"สำนักข่าวทีนิวส์"

10 ธันวาคม 2559

 

 

เรียบเรียงโดย  :   ชัชรินทร์   สำนักข่าวทีนิวส์