นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

เมื่อวันที่  ๙ กันยายน ๒๔๙๗ ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นที่ตลาดบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากไฟไหม้ในครั้งนี้อย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ทรงขับรถพระที่นั่งมายังที่เกิดเหตุด้วยพระองค์เอง ทรงไต่ถามทุกข์สุขของผู้ประสบอัคคีภัย พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ และเสื้อผ้า อาหาร และยารักษาโรค พระราชทานแก่ผู้ประสบภัย การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่ตลาดบ้านโป่งครั้งนี้ จึงนับเป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จพระราชดำเนินออกเยี่ยมราษฎร

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

 

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

( ชาวบ้านโป่งหนีตายกันอลหม่านเมื่อไฟไหม้ตลาด )

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

นานวัน..ยิ่งคิดถึงพ่อ!!ซาบซึ้งน้ำตารินคลิปภาพข่าว "ในหลวงร.๙ "ทรงขับรถพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง เยี่ยมผู้ประสบอัคคีภัยตลาดบ้านโป่ง ราชบุรี

สมัยนั้น ตลาดบ้านโป่งไม่ได้หลบเข้าไปอยู่ห่างจากเส้นทางลงสู่ภาคใต้อย่างในปัจจุบัน ถนนเพชรเกษมที่ล่องลงใต้ต้องผ่านตลาดบ้านโป่ง ซึ่งเป็นชุมทางการค้าสำคัญริมแม่น้ำแม่กลอง มีตลาดล่างและตลาดบนอยู่ติดกัน แต่แล้วทั้ง ๒ ตลาดแม้จะมีถนนคั่นกลาง ก็ราบเรียบเป็นเถ้าถ่านภายในเวลาเพียง ๔ ชั่วโมงด้วยอัคคีภัย ทำให้หลายคนหมดเนื้อหมดตัวจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นเหตุการณ์สร้างประวัติศาสตร์จารึกอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านโป่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปเยี่ยมราษฎรผู้ประสบความเดือดร้อนโดยไม่มีหมายกำหนดการ และไม่มีใครคาดคิด

 

อัคคีภัยครั้งนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อราว ๑๔.๓๐ น.ของวันที่ ๙ กันยายน ต้นเพลิงเกิดจากร้านโชห่วยค้าทั้งปลีกและค้าส่งประเภทอาหารกระป๋อง และไปขาดทุนจากการทำเหมืองที่ปิล็อก กาญจนบุรี ก่อนหน้านั้นประมาณ ๑ เดือนก็เคยเกิดไฟไหม้ที่ร้านนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ชาวบ้านช่วยกันดับทัน ครั้งนี้ไฟได้โหมขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งสติกันไม่ทัน จังหวัดราชบุรีและนครปฐมที่อยู่ใกล้ ก็มีรถดับเพลิงจังหวัดละคันเท่านั้น ต้องโทรเลขขอจากกรุงเทพฯให้มาช่วย ซึ่งก็ส่งมาได้แค่ ๒ คัน แต่กว่าจะได้รับโทรเลขและกว่าจะเดินทางมา ๗๐ กิโลเมตร บ้านเรือนร้านค้ากว่า ๘๐๐ หลังของทั้งสองตลาดที่ส่วนใหญ่เป็นไม้ ก็ราบเรียบเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว มีคนตาย ๓ คน รวมทั้งลูกเสือ ๑ คนที่เข้าไปช่วยชีวิตคนอื่น ประชาชนกว่า ๖,๐๐๐ คนประสบภัย ทรัพย์สินเสียหายกว่า ๖๐ ล้าน มีผู้ประกันไฟไว้เพียง ๑๑๕ ราย เป็นเงินรวม ๓,๗๗๕,๐๐๐ บาท อาแป๊ะแก่คนหนึ่ง มีร้านขายผ้า ๒ คูหาอยู่ติดกับร้านต้นเพลิง และยังเป็นประธานโรงเจ มีหน้าที่เก็บรักษาเงินบริจาคจำนวนมากของโรงเจไว้ แต่ก็ขนอะไรไม่ทัน สูญทั้งทรัพย์สินของตัวเองและของโรงเจจนหมด เสียใจถึงกับยอมตายในกองเพลิง แต่เพื่อนบ้านช่วยกันอุ้มออกมาได้ ตำรวจจับเจ้าของร้านต้นเพลิงซึ่งกำลังหลบหนี ยอมรับว่าเผาเพื่อหวังเอาเงินประกันเพียง ๓๐,๐๐๐ บาท
     

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: เฟซบุ๊ก คนไทย สองแผ่นดิน

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม : Manager Online

เรียบเรียง : มนันยา สนข.ทีนิวส์