อุทาหรณ์มองคนด้านเดียว!!! หนุ่มวัย 25 ตั้งใจโพสต์FBขำๆ แปลงสูตรอุณหภูมิถูกเหน็บหาว่า "โง่" เจ้าตัวสวนกลับเรียกเสียงเฮคนคิดบวกเต็มๆ!!!

 

 

     จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพการคำนวณสูตรทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเจ้าของภาพกำลังนอนและรู้สึกหนาว เลยลุกขึ้นมาปรับแอร์แต่ปรากฏว่ารีโมตแอร์นั้นขึ้นหน่วยอุณหภูมิเป็นฟาเรนไฮต์ ทำให้เจ้าตัวต้องมานั่งคำนวณในการแปลงหน่วยอุณหภูมิองศาเซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์ เมื่อคำนวณได้แล้วจึงได้นอนต่อ ซึ่งผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก "Poom Nawath" ระบุข้อความว่า... "รีโมทแอร์เปนไรเนี่ย ..คือหนาวไงเลยตื่นมาจะปรับแอร์แต่มันใช่เรื่องไหมที่ต้องตื่นมสนั่งคำนวณเองว่าจะเอา 25 องศาเซลเซียส ต้องกี่ฟาเรนไฮต์?? ดีนะที่ตอนมัธยมตั้งใจเรียน5555 #นอนต่อ💤" จากนั้นภาพดังกล่าวก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่มีบางส่วนแสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไป บอกไม่เห็นจะต้องมานั่งเสียเวลาคิดทั้งที่สามารถนำตัวเลขไปค้นหาในอินเตอร์เน็ตได้

 

 

     โดยผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ชื่อว่า นายณวัสน์ อัครสีห์รชตะ หรือภูมิ อายุ 25 ปี ศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ช่วงเวลา 02.00 น. ขณะนั้นดึกมากแล้ว รู้สึกว่าหนาวจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อหยิบรีโมทแอร์จะปรับอุณหภูมิ กลับมีตัวเลขที่รีโมทเป็นหน่วยฟาเรนไฮต์ ซึ่งมัธยมศึกษาตอนปลายตนเรียนจบสายวิทย์ จึงพอจำสูตรแปลงหน่วยอุณหภูมิได้และคำนวณออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งตนรู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกันที่โดนคนด่าว่าโง่ ทำไมไม่หาในกูเกิ้ลหรือสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องมานั่งคิดเองแบบนี้หรือ?

 

 

     จากนั้นนายณวัสน์ ได้เผยถึงความรู้สึกว่าทำไมต้องมานั่งคำนวณหาเอง เพราะตอนนั้นโทรศัพท์ที่เล่นเน็ตได้ก็แบตหมด ถ้าคิดจริงๆ ก็ไม่กี่นาทีคำนวนสูตรเสร็จ ฝึกสมองบ้าง อะไรที่เราทำได้เองก็ควรทำ ไม่ใช่เพิ่งแต่เทคโนโลยีอย่างเดียว รีโมทก็เป็นรุ่นปกติธรรมดาแหละครับ ตนก็เพิ่งรู้ว่ามันมีหน่วยฟาเรนไฮต์ด้วย ไม่รู้ว่ารีโมทมันเสียหรือมันเป็นอะไรหรือคงจะเผลอไปนอนทับโดนปุ่มอะไรสักอย่างแล้วปรับคืนไม่ได้ ก็เลยลองคิดหน่วยองศาเซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์ ตนไม่โกรธ เขาคงไม่รู้ว่าตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์เพราะกำลังชาร์จอยู่ แต่อยากให้มองโลกกว้างๆ ว่าแต่ละคนเจอสถานการณ์ต่างกัน ตนมีความรู้เรื่องนี้แล้วก็ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ ทบทวนความรู้ด้วย ตอนนี้เราพึ่งแต่เทคโนโลยีมากไปเลยอยากพึ่งตัวเองให้ได้ใช้สมองคิดบ้าง

 

 

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก Poom Nawath