ฟังให้ได้ศัพท์ ก่อนจับไปกระเดียด!! "สุมิตรา จันทร์เงา" ฝากถึง "บางคน" หลังโพสต์เฟซบุ๊กถึงนายกฯวอนส่งเสริมวงการหนังสือ งานนี้มีสะอึกกันบ้าง!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวกรณีนิตยสาร พลอยแกมเพชร ประกาศปิดตัวลงไปโดยคาดว่าเหตุผลอาจจะเป็นเพราะกระแสการอ่านนิตยาสารดร็อปลงไปมากและผู้คนนิยมอ่านหนังสือหรือข้อมูลข่าวสารผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ โดยได้ฝากข้อความส่วนหนึ่งถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลให้ช่วยกันส่งเสริมการอ่านและส่งเสริมให้ผู้คนอ่านหนังสือมากขึ้นผ่านทางวิธีการต่างๆเช่นกรณีของการช้อปช่วยชาติ หลังจากนั้นทางนักเขียนคนดัง “คำ ผกา”ได้ออกมาตอบโต้ข้อความดังกล่าวผ่านทางคลิปวีดีโอโดยระบุว่า หายนะของเสรีภาพประชาชน คือหายนะของนักเขียน เห็นด้วยหรือเห็นต่าง? “คำ ผกา” พาอ่านจดหมายขอความเห็นใจนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร โดยนักเขียนผู้หวังว่ารัฐบาล คสช. จะช่วยเหลือให้งานวรรณกรรมก้าวสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ เสรีภาพในการแสดงออก จะนำมาสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ด้านศิลปะและวรรณกรรม 

ชมคลิป คำ ผกา ระบุว่า หายนะของเสรีภาพประชาชน คือหายนะของนักเขียน เห็นด้วยหรือเห็นต่าง? “คำ ผกา” พาอ่านจดหมายขอความเห็นใจนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร โดยนักเขียนผู้หวังว่ารัฐบาล คสช. จะช่วยเหลือให้งานวรรณกรรมก้าวสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ เสรีภาพในการแสดงออก จะนำมาสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ด้านศิลปะและวรรณกรรม

 

ชมคลิปวีดีโอ

 

 

ทางด้าน สุมิตรา จันทร์เงา ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

เรายอมรับความเห็นต่าง
...


เต็มที่เลยค่ะ เราต่างมีเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ฟังให้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียดก็ดีนะคุณ"คำ ผกา"
ประเด็นที่ดิฉันเสนอไปขอยืนยันว่าเป็นความปรารถนาให้รัฐดูแลส่งเสริมการอ่านโดยรวม มิใช่อุ้มนักเขียนและคนในวงการหนังสือมาหยอดน้ำข้าวต้มแบบคนป่วยใกล้ตาย หรือมิใช่เพื่อโอบอุ้มนิตยสารเล่มใดเล่มหนึ่ง
คงเพราะมีคนจำนวนมากอ่านหนังสือยังไม่แตกก็เลยแหกสังคมด้วยการตอกลิ่มทิ่มให้เกิดความขัดแย้งแบ่งฝ่ายอยู่เช่นนี้ตลอดมา


ดิฉันพูดไม่เก่ง ด่าใครไม่ค่อยเป็นนัก ถนัดแต่การเขียนหนังสือ ถ้าจะกล่าวหาว่าทำไมนักเขียนไม่ยอมช่วยตัวเอง ทำไมหวังพึ่งรัฐบาลทหารเผด็จการ คำตอบของดิฉันคือ การออกมาพูดเรื่องนี้ การเขียนในสิ่งที่ต้องการเพื่อให้สังคมรับรู้ ถือเป็นการช่วยตัวเองอย่างหนึ่งตามหน้าที่ของดิฉันในฐานะนักเขียนแล้ว มันยืนยันว่าพวกเราไม่ได้งอมืองอเท้ารอความตาย แต่เราทำทุกทางเพื่อจะให้สังคมนี้อยู่รอดตามบทบาทของเรา การฟ้องรัฐบาลให้ฟังเสียงเราก็เป็นสิทธิพลเมืองอย่างหนึ่ง เท่าเทียมกับชาวนา ชาวสวนยาง ชาวไร่ เท่าเทียมกับนักเลือกตั้ง นักประชาธิปไตย เท่าเทียมกับนักการเมืองผู้โหยหาอำนาจ เท่าเทียมกับผู้ประกาศข่าว นักเมาท์มอยทางจอกระจกดิฉันผิดตรงไหนหรือคะ? ก่อนจะวิจารณ์แดกดันใคร กรุณาอ่านให้รู้ความหมาย และช่วยเช็ดน้ำลายที่หยดอยู่ตรงมุมปากด้วยค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก สุมิตรา จันทร์เงา ,In Her View