ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยแพร่ 5 อันดับพฤติกรรมยอดแย่ของตำรวจไทย ในรอบปี 2559 ที่ทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้รวบรวมข้อมูลมาตลอด 1 ปี โดยระบุข้อความไว้ดังนี้

เรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกทุกท่าน วันนี้ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ขอจัดอันดับ 5 พฤติกรรมยอดแย่ของตำรวจไทย ในรอบปี 2559 ที่ทางชมรมฯ ได้รวบรวมข้อมูลมาตลอด 1 ปี
 

อันดับ 1 คือการค้าสำนวน ของพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ที่ขายสำนวนตัวจริงให้กับผู้ต้องหา และนำหลักฐานชุดสืบสวนออกจากสำนวน เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา แลกกับเงิน 8 แสนบาท ที่ยังลอยนวลอยู่ทุกวันนี้
อันดับ 2 คือการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างไม่เป็นธรรม ในการลักไก่จับประชาชนในข้อหาดัดแปลงสภาพรถท่อไอเสีย เสียงดังไม่เกิน 95 เดซิเบล ที่ไม่ผิดกฎหมาย ตามพรบ.จราจร 2522
อันดับ 3 คือการยัดข้อหา (คดียาเสพติด)
อันดับ 4 การใช้วาจาไม่สุภาพต่อประชาชน ในส่วนของตำรวจจราจร
อันดับ 5 คือ การเป่าคดี หรือไม่รับแจ้งความเป็นคดีอาญา ถือเป็นความล้มเหลวในการปฏิรูปตำรวจในส่วนของ One Stop Service
 

การที่ทางชมรมฯ จัดอันดับในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากเห็นพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในปี 2560
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

1. การค้าสำนวน

ในรอบหลายปีที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนที่ค้าสำนวน ยากที่จะหาหลักฐานที่มีทั้งภาพ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง ใบโอนเงินเข้าบัญชีของตำรวจและภรรยาตำรวจ ในการทุจริตคอร์รัปชั่นในการขายสำนวนตัวจริง (วงการตำรวจเรียก การค้าสำนวน) เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิดจากข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากในกระบวนการยุติธรรมต้นทาง

 

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)

 

ภาพพนักงานสอบสวนนายหนึ่ง สน.บวรมงคล ปัจจุบันช่วยราชการ สน.ท่าพระ กำลังนับเงินจากการค้าสำนวนที่รับจากผู้ต้องหาที่วันนี้ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แต่ยังลอยนวลอยู่ ไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด การกระทำแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมีในสังคมยุคปัจจุบัน ที่มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาด้วยการขายสำนวนตัวจริง แล้วยังชักหลักฐานของชุดสืบสวนออกจากสำนวน เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด โดยแลกกับเงินจำนวน 8 แสนบาท

 

2. การบังคับใช้กฎหมาย พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 อย่างไม่เป็นธรรม

ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตำรวจจราจรลักไก่จับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ในข้อหาดัดแปลงสภาพรถท่อไอเสีย เสียงดังไม่เกิน 95 เดซิเบล โดยใช้หูวัด ซึ่งข้อหาดังกล่าว มีโทษปรับ 2,000 บาท ตำรวจจราจรได้ส่วนแบ่งค่าปรับ 1,000 บาท ข้อหานี้ กรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งให้กับตำรวจจราจรทราบมาโดยตลอด ว่าการเปลี่ยนท่อไอเสีย ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกรมการขนส่งทางบก และหากจะมีการจับเรื่องเสียง จะต้องใช้เครื่องมือวัดเสียงตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกวัดเสียงเท่านั้น แต่ตำรวจจราจรก็ไม่สนใจ ยังลักไก่จับข้อหานี้ทั่วประเทศ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ข้อหานี้ ไม่ผิดกฎหมาย จนกระทั่งเกิดบรรทัดฐานใหม่ ที่ประชาชนคนหนึ่ง ยอมเป็นหนูลองยา ลุกขึ้นสู้กับตำรวจจราจรในข้อหานี้ ที่ สน.โชคชัย ทุกอย่างได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย จนคดีถึงที่สุด แม้แต่พนักงานสอบสวนโรงพักเดียวกัน ยังสั่งไม่ฟ้อง และพนักงานอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง คดีเป็นอันยุติแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่ง ถึงพฤติกรรมยอดแย่ของตำรวจจราจร ที่ลักไก่จับประชาชนโดยที่ไม่อิงกฎหมาย เพื่อมุ่งหวังเปอร์เซ็นต์ค่าปรับใบสั่งจราจร

 

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)

 

 

3. การยัดข้อกล่าวหา (คดียาเสพติด)

ในรอบหลายปีที่ผ่านมา มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของตำรวจบางนายในการสร้างผลงานให้กับตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของพี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อในข้อหาค้ายาเสพติด หรือมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายการไม่รวบรวมพยานหลักฐาน ในอดีตเมื่อปี 2554 ทำให้สาวบ้านโป่งคนหนึ่งต้องกลายเป็นผู้ต้องหา เพียงแค่ทำบัตรประชาชนหล่นหาย แล้วมีใครก็ไม่รู้ เอาบัตรประชาชนไปใช้ นำยาบ้า 29 เม็ดใส่ในถุงแกงส้มไปส่งให้นักโทษชายในเรือนจำเบตง ทั้ง ๆ ที่สาวบ้านโป่งคนนี้ ไม่เคยไปเบตง จ.ยะลา แม้แต่ครั้งเดียวจากผู้บริสุทธิ์ เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ต้องตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.เบตง ที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ในปี 2554 ยัดข้อกล่าวหาให้กับสาวบ้านโป่งรายนี้ ทั้ง ๆ ที่ในขณะนั้น ผู้ต้องหาตัวจริง ที่นำยาบ้าเข้าไปในเรือนจำเบตง เป็นหญิงชาวพม่า แล้วถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา กลับกลายมาเป็นพยานปากสำคัญ อ้างว่า ถูกสาวบ้านโป่งส่งมอบบัตรประชาชนให้หญิงพม่า นำยาบ้าใส่ในถุงแกงส้ม 29 เม็ด ให้ไปเยี่ยมพี่ชาย ที่สำคัญ ทำไมถึงไม่มีการสอบนักโทษที่ถูกระบุว่า เป็นผู้สั่งยาบ้าเข้าไปในเรือนจำ และเหตุใดในขณะนั้น ถึงได้บอกว่ามีภาพวงจรปิดในเรือนจำ ปัจจุบันสาวบ้านโป่งรายนี้ ต้องถูกจับคุมขังอยู่ 3 วัน จนกระทั่งชาวบ้านทั้งอ.บ้านโป่ง ต้องเรี่ยไรเงินช่วยกันประกันตัวเธอออกมา แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดี ที่ปัจจุบันนี้ ยังมีตำรวจที่ดีและน่ายกย่อง คือ ร.ต.ท.พรชัย ชูนวล เห็นความผิดปกติในคดีนี้ ตัดสินใจใช้อำนาจพนักงานสอบสวนรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาทำใหม่ คดีนี้หากไม่มีชาวบ้านอ.บ้านโป่งเรี่ยไรเงินให้ประกันตัว สาวบ้านโป่งรายนี้ คงต้องติดคุกอย่างน้อย 1 ปี กว่าศาลจะมีการพิจารณาคดี ถือเป็นพฤติกรรมยอดแย่เช่นเดียวกันของตำรวจไทย

 

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)

 

 

4. การใช้วาจาไม่สุภาพ

ในรอบปีที่ผ่านมา ตำรวจจราจรมักมีปากเสียงกับพี่น้องประชาชนทั่วทุกหย่อมหญ้า มีคลิปออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง เพราะตำรวจจราจรคิดว่าตัวเองมีอำนาจมากมาย ในการบังคับใช้กฎหมายจราจร แล้วมักจะใช้คำพูดข่มขู่ และใช้วาจาไม่สุภาพกับประชาชนอยู่บ่อยครั้ง สำหรับตำรวจจราจรบางนายพฤติกรรมเหล่านี้ ถือเป็นพฤติกรรมยอดแย่ ของตำรวจจราจรบางนาย ที่มีหน้าที่บริการประชาชน แต่กลับมาทะเลาะกับประชาชนต่อสาธารณชนอยู่เสมอ

 

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)

 

5. ไม่รับแจ้งความเป็นคดีอาญา

การปฏิรูปตำรวจ 1 ในหัวข้อสำคัญ คือ การบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ถือเป็นความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัดทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศไทย การที่มีประชาชนถูกละเมิดในคดีอาญา เมื่อไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีอาญา กลับถูกพนักงานสอบสวนลงประจำวันให้เท่านั้น โดยไม่ออกเลขคดีอาญา เพื่อไม่ให้โรงพักถูกตรวจสอบว่า มีคดีอาญาเกิดขึ้น ซึ่งการเป่าคดีแบบนี้ ทำให้เสมือนว่าโรงพักนั้น ๆ มีความสามารถในการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ จึงไม่มีคดีอาญาเกิดขึ้น สร้างเป็นผลงานได้ แต่แท้จริงแล้วเกิดจากพนักงานสอบสวนเป่าคดีไม่รับแจ้งความเป็นคดีอาญา ถือเป็นพฤติกรรมยอดแย่เช่นเดียวกันของตำรวจไทย

 

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมจัดหนัก!! แฉ 5 พฤติกรรมยอดแย่ตำรวจไทย ตลอด1ปี ประชาชนเกินรับไหวปีไหนๆก็เป็น มีอะไรบ้างไปดู!!(รายละเอียด)
 

ขอบคุณข้อมูลจาก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

เรียบเรียงโดย รัตติยา ทีมข่าวภูมิภาคทีนิวส์