สนธิญาณตอบบก.ลายจุด ทีนิวส์กล้าหาญยืนหยัดความจริงถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด จบแค่นี้นะ!!

 

 

สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 26 ธ.ค. 2559 ต้องขอบตอบสมบัติ บุญงามอนงค์หรือบก.ลายจุด แกนนำปัญญาชนคนเสื้อแดงอีกครั้งที่ยังให้ความสนใจและติดตามการทำงานของสำนักข่าวทีนิวส์ในเรื่องของวัดธรรมกาย โดยเฉพาะประเด็นที่ช่างภาพของสำนักข่าวทีนิวส์ไปรับจ้างวัดดังแห่งหนึ่งโกนหัวเพื่อที่จะให้ไปปฏิบัติภารกิจบางอย่าง รวมทั้งตั้งคำถามเพิ่มเติมว่าทำไมสำนักข่าวทีนิวส์ถึงได้เจาะจงรายงานข่าววัดธรรมกายมากมายนัก รวมถึงการใช้ถ้อยคำที่มีการโน้มเอียงในการพาดหัว ประการแรกสำนักข่าวทีนิวส์ไม่ได้ปฏิเสธว่าช่างภาพคนดังกล่าวเป็นคนของสำนักข่าวทีนิวส์ แต่ที่ไม่ได้ยืนยันออกไปก็เพราะเจ้าตัวกลัวจะถูกปองร้าย ส่วนใครจะมาปองร้ายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดคิดได้หรอกครับแต่ก็มีพระระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสของวัดธรรมกาย หรืออย่างนายผ่อง เล่งอี้ อดีตคนศรัทธาวัดธรรมกายชื่อดังที่เคยออกมาปกป้องทุกเรื่องทุกราว วันนี้เงียบสนิทเพราะถอนตัวออกไปจากวัดธรรมกายแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด สังคมไม่สามารถจะรู้ได้แต่สำนักข่าวทีนิวส์รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรแต่ไม่สามารถเปิดเผยหรือพูดได้หรอกครับเพราะหลักฐานพยานไม่ชัดเจนและเจ้าตัวก็ไม่ได้ยืนยัน

 

 

ส่วนประเด็นถัดมาที่รายงานข่าววัดธรรมกายอย่างมากมายนั้น ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือมีเจตนาให้ร้ายแต่อย่างใด เพราะสนธิญาณเองก็เคยเข้าวัดธรรมกาย สิ่งไหนที่เป็นบุญคุณ สิ่งไหนที่เป็นธรรมะบริสุทธ์ สิ่งไหนที่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีงามถูกต้องก็ยังระลึกและปฏิบัติอยู่ แต่สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถไปชี้เรื่องของหลักศาสนาได้ แต่ในแง่การกระทำความผิดตามกฏหมายไม่มีเหตุผลใดๆ ที่รัฐจะไปแกล้งวัดธรรมกาย ตามหลักกฏแห่งกรรมทุกอย่างเกิดขึ้นจากปัจจัยแห่งเหตุที่วัดธรรมกายและพระธัมมชโยเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น รู้ทั้งรู้อยู่ว่าศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ไม่มีทางจะร่ำรวยมีเงินเป็นพันๆ ล้านมาบริจาคหรือทำบุญได้แต่ยังเข้าไปรับ นั่นจึงเป็นเหตุแห่งความผิด และแทนที่จะไปมอบตัวพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นกลับไม่มอบตัว จึงทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมาจนถึงปัจจุบันนี้

 

 

ส่วนประเด็นที่มีการพาดหัวหวือหวา แน่นอนว่าคนหมู่มากอันไหนที่กล่าวล่วงหรือผิดพลาดไปได้มีการสั่งให้แก้ไขทันทีและมีการผิดพลาดจริง แต่โดยหลักการบางครั้งสำนักข่าวทีนิวส์สั่งให้ลงโทษผู้สื่อข่าวที่กระทำการแบบนั้นเสียด้วยซ้ำ จึงขอตอบมาอีกครั้งและครั้งสุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกโหนเป็นกระแสต่อไป.

 

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ แฟนข่าวทีนิวส์กับสนธิญาณ