ซวยสุดๆ!!!อดีตผจก.โรงงานหนุ่มหวังมีรักแท้ลงทุนหาคู่ในเว็บไซด์ดัง  โชคร้ายเจอสาว18 มงกุฎเต็ม ๆ เสียทั้งเงินสดแถมเป็นหนี้กว่า 4 ล้าน ??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

กลายเป็นประเด็นทางสังคมที่ถือเป็นอุทธาหรณ์สอนใจได้เป็อย่างดี     เมื่อในเพจเฟซบุ๊กชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม    ได้โพสต์ข้อความเรื่องราวที่เป็นประเด็นทางคดีฐานฉ้อโกง  ว่า   นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม  พร้อมด้วยผู้เสียหายคือ อดีตผู้จัดการหนุ่มวัย  40  ปี   เดินทางนำหลักฐานและเอกสารต่างๆเข้าพบกับ พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี และ พ.ต.ท. ประมวล ทองภู หัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวรายหนึ่งอายุ ประมาณ 25 ปี ในข้อหาฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร

 

ซวยสุดๆ!!!อดีตผจก.โรงงานหนุ่มหวังมีรักแท้ลงทุนหาคู่ในเว็บไซด์ดัง  โชคร้ายเจอสาว18 มงกุฎเต็ม ๆ เสียทั้งเงินสดแถมเป็นหนี้กว่า 4 ล้าน ??

 

 

ทั้งนี้นายอัจฉริยะ  ระบุที่ไปที่มาของการฟ้องร้องดังกล่าว  สืบเนื่องมาจากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายรายนี้ คือ นาย ภัทรกร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อดีตผู้จัดการหนุ่มโรงงาน   โดยเจ้าตัวเล่าว่า  เริ่มต้นจากการที่ตนเองอยากมีภรรยาอยากสร้างครอบครัวจึงไปสมัครหาคู่ในเว็ปไซร์หาคู่แห่งหนึ่ง   จนได้รู้จักกับหญิงสาวทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า น.ส.สุชาฎารัตน์ เกษมโชค อายุ 25 ปี   และได้พูดคุยติดต่อกันแล้วเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันและเดินทางมาพบเจอกัน

 

 

 

ต่อมาหญิงสาวรายนี้ได้ใช้กลอุบายในหน้าที่การงานที่ตนเองเปิดเป็นบริษัทรับเหมาถมที่ดินมาเป็นแรงจูงใจให้เกิดความเชื่อถือ   โดยการออกอุบายว่าคิดอยากสร้างอนาคตร่วมกับตน  จนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  น.ส.สุชาฎารัตน์   ได้นำรถหรู ยี่ห้อ BMW มาเปลี่ยนกับของตน  อ้างว่าอยากให้ตนดูดีมีฐานะ   ก่อนจะออกอุบายให้มีการร่วมลงทุนโดยการเช่าซื้อรถยนต์กระบะจำนวน 5 คัน   โดยใช้ชื่อของนายภัทรเป็นคนซื้อ  แล้วทำการเชิดรถหนีหายไป   รวมรถยนต์ที่ถูกหญิงสาวรายนี้หลอกเชิดไปทั้งหมด 6 คันรวมรถส่วนตัวของผู้เสียหายด้วยอีกหนึ่งคัน และเงินสดจำนวน 220,000 บาท  ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดมาถูกเปิดเผยเมื่อบริษัท ไฟแนนซ์ ที่ตนไปดาวน์รถไว้ทั้ง 5 แห่ง ติดตามทวงถามค่างวดรถ  ขณะเดียวกันตนก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.สุชาฎารัตน์ได้อีกเลย

 

ซวยสุดๆ!!!อดีตผจก.โรงงานหนุ่มหวังมีรักแท้ลงทุนหาคู่ในเว็บไซด์ดัง  โชคร้ายเจอสาว18 มงกุฎเต็ม ๆ เสียทั้งเงินสดแถมเป็นหนี้กว่า 4 ล้าน ??

ทั้งนี้นายอัจริยะ ยืนยันว่าทางชมรมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดจริงและมีความน่าเชื่อว่าจะมีการกะทำเป็นขบวนการ เนื่องจากมีการนำเอารถที่ใช้ชื่อผู้เสียหายซื้อมานั้นไปขายต่อให้กับทางเต๊นท์รถมือสอง  ในลักษณะของการรับรถไปขายช่วงต่ออีกทอดหนึ่ง     จึงมีความน่าเชื่อได้ว่าต้องมีผู้ร่วมขบวนการหลายคน  โดยยอดมูลค่าความเสียหายขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท

 

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางพลี ได้รับแจ้งและจะเร่งตรวจสอบประวัติน.ส.สุชาฎารัตน์ ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป  โดยหากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายหลอกลวงจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

เรียบเรียง  :  ชัชรินทร์  สำนักข่าวทีนิวส์

ที่มาข้อมูล :  FB  ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม