- 03 ม.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ร้อนต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี กับการออกมาปลุกกระแสความรู้สึกให้มวลชนฝ่ายตรงข้ามคสช.เข้าใจว่ารัฐบาลคสช.มีเป้าหมายจะเลือกกำหนดการเลือกตั้ง โดยอาศัยการทำงานของกรธ.และสนช.เป็นแรงผลักดัน ล่าสุด นายนรชิต สิงหเสนี กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวเพราะมีการอ้างถึงความไม่พอใจของต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง ถ้าการเลือกตั้งในเมืองไทยถูกเลื่อนออกไป โดยระบุว่าหากการเลื่อนการเลือกตั้งตามที่ประกาศไว้ในโรดแมปมีเหตุผล และสามารถอธิบายให้ต่างชาติรับฟังได้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่ถูกต่างชาติตำหนิแน่นอน
เพราะที่ผ่านมาการเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในช่วงการทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทำให้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง จากนั้นได้ตั้ง กรธ. เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการทำงานของ กรธ. ยังเป็นไปตามโรดแมป หรือตามกำหนดช่วงเวลาของการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จำนวน 8 เดือน และยังคงเป็นช่วงเวลาตามโรดแมปเลือกตั้งภายในปี 2560 ดังนั้นตนเชื่อว่าหาก คสช. และรัฐบาล สามารถตอบคำถามต่อการเลื่อนการเลือกตั้งและชี้แจงได้อย่างมีเหตุผล มั่นใจได้เลยว่าต่างชาติจะเข้าใจ แต่หากต่างชาติไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยถือเป็นเรื่องของต่างชาติ เพราะการจัดการเลือกตั้งของไทยเป็นเรื่องภายในประเทศ
นอกจากนี้นายนรชิต ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงปฏิทินจัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าขณะนี้กรธ.กำลังเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้แล้วเสร็จก่อน และเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้
ขณะที่ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เริ่มต้นนับการจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน จะส่งให้ สนช. ภายหลังจากที่ กกต. ได้สรรหา กกต.เพิ่มเติม จำนวน 2 คน และทำเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้งเสร็จ และพรรคการเมืองได้ปรับตัวตามกติกาใหม่ที่กำหนดเวลาให้ไว้ 6 เดือน
ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ กรธ. จะส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ สนช. พิจารณา คือ ช่วงเดือนที่ 4 ของเวลาที่ให้พรรคการเมืองปรับตัว หรืออาจเป็นเดือนที่ 6 หากพรรคการเมืองต้องการใช้เวลาเตรียมพร้อมจนครบกำหนดเวลาที่กฎหมายลูกระบุไว้ ขณะที่การจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันนั้น ล่าสุด กกต. ได้ระบุว่าจะแบ่งเวลาเป็นใช้จัดการเลือกตั้ง 90 วัน และอีก 60 วันเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนหรือจัดการเลือกตั้งซ่อม
นายนรชิต กล่าวด้วยว่า เมื่อ สนช. รับร่าง พ.ร.ป. ไว้พิจารณาจะมีเวลา 60 วันแต่ละฉบับ ซึ่ง สนช. มีสิทธิปรับปรุงและแก้ไขทุกจุด หรือแก้ไขเนื้อหาที่เปลี่ยนไปจากเดิมทั้งหมดได้ แต่ต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญใหม่ และเมื่อ สนช. ลงมติเห็นชอบแล้วต้องส่งร่าง พ.ร.ป.ให้ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรที่เกี่ยวข้อง และ กรธ. พิจารณาภายใน 10 วัน หากไม่พบเนื้อหาที่ขัดกับรัฐธรรมนูญใหม่จะเข้าสู่กระบวนการประกาศใช้เป็นกฎหมาย แต่หากพบเนื้อหาที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ต้องเข้าสู่การตั้งกรรมการร่วมกันระหว่าง สนช. และ กรธ.โดยใช้สัดส่วน กรธ. 5 คน และ สนช. 5 คน และให้ประธาน สนช. เป็นประธานกรรมการฯ รวมเป็น 11 คน
โดยขั้นตอนดังกล่าวกำหนดเวลาแล้วเสร็จ คือ 15 วัน จากนั้นให้นำเข้าสู่การประชุม สนช. อีกครั้ง หาก สนช. ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่กรรมการร่วมพิจารณา ต้องใช้เสียงเกิน 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ลงมติให้ตกไป ดังนั้นเมื่อพิจารณากระบวนการตนไม่เชื่อว่า สนช. จะลงมติไม่เห็นชอบของร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จนต้องเข้าสู่กระบวนการจัดทำร่างกฎหมายใหม่ แต่หากพิจารณาในทางทฤษฎีอาจเป็นไปได้ และหากโหวตตก เป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่ต้องจัดทำกฎหมายประกอบฉบับใหม่ แต่จะใช้เวลาเท่าใด รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ได้กำหนดไว้ แต่ตนเชื่อว่าอาจใช้เวลาไม่ถึง 8 เดือน
เรียบเรียง : ชัชรินทร์ สำนักข่าวทีนิวส์