- 05 ม.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
เกาะติดคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลายครอบครัวได้รับผลกระทบจากการถูกฉ้อฉล เอารัดเอาเปรียบโดยแก๊งปล่อยเงินกู้นอกรีตด้วยอัตราดอกเบี้ยมหาโหด ???
ล่าสุด พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยข้อมูลภายหลังการประชุมร่วม กับ พ.ต.ท.ชลภัทร ปานสกุล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนอาชญากรรมพิเศษ ดีเอสไอ/ และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ว่าเบื้องต้นจะเร่งจัดการกับจำนวนทรัพย์สินที่ยึดได้จากนายวิชัย ปั้นงาม เจ้าพ่อเครือข่ายเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศ มูลค่ากว่า 150 ล้านบาทให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
พร้อมกันนั้นก็จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการรายอื่น โดยได้สั่งการไปแล้วในการให้ฝ่ายสืบสวนสนันสนุนข้อมูลให้กับพนักงานสอบสวนคดี รวมถึงนำข้อมูลเชิงลึกส่งต่อให้ปปง.นำไปวิเคราะห์ธุรกรรมการเงินของบรรดาเครือข่ายที่คาดว่าจะอยู่เหนือนายวิชัยขึ้นไป อาทิ นักการเมืองหญิงรายหนึ่ง และ บุคคลมีชื่อเสียงอื่น ๆ อีก 2-3คน ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนเรียกกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาชี้แจง โดยหากคนเหล่านั้นไม่สามารถชี้แจงได้จะต้องถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการได้มาซึ่งทรัพย์สินอันผิดกฎหมาย
ส่วนกรณีการหนีหลบไม่เข้ามอบตัวของนายวิชัย พ.ต.อ.ดุษฎี ชี้แจงเพิ่มเติมเติมเป็นการให้ข้อมูลจากทีมทนายความของนายวิชัยว่า ขณะนี้เจ้าตัวอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้ประสานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปแล้วว่า หากนายวิชัยเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยจะดำเนินการอายัดตัวในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทันที
“ล่าสุดดีเอสไอได้มีการประชุมแล้วมีความเห็นว่าจะไม่ให้ประกันตัวนายวิชัย เนื่องจากถือเป็นคดีที่กระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกหนี้กว่า 1แสนราย ที่อาจถูกเครือข่ายนายวิชัยข่มขู่ได้ ส่วนรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 165 คนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเงินกู้นี้ได้ถูกส่งไปยังรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตและแห่งชาติ ศอตช. แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มีพฤติการรับผลประโยชน์ผ่านบัญชี จึงต้องตรวจสอบว่ารับเป็นรายครั้ง หรือเป็นรายเดือน ส่วนลักษณะการเข้าไปเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่นั้น น่าจะเป็นการมีส่วนรู้เห็นในเรื่องคดี "
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ดุษฎี ยืนยันด้วยว่าจนถึงตอนนี้ไม่มีแรงกดดันจากหน่วยงานอื่นๆในการทำคดีนี้ทั้งสิ้น ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดไว้จากการกระทำความผิดได้นำมาเป็นของกลาง และอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องตั้งข้อหาฟอกเงิน
เรียบเรียง : ชัชรินทร์ สำนักข่าวทีนิวส์