ขนลุกซู่เลย! ชาวบ้านโคราชเห็นชายผ้าเหลืองปลิวไหวๆอยู่ใต้ต้นไม้เดินไปดูนึกกว่าพระธุดงค์แต่กลับต้องช็อกหนักเพราะสิ่งที่มโนไว้ไม่ได้เป็นแบบนั้น

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     พ.ต.ท.เด่นชัย  ชำนาญในเมือง  รองผกก.สส.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา  ได้รับแจ้งจากนายสมพร  ยิบกลาง อายุ 54 ปี ชาว ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่าพบศพพระสงฆ์ผูกคอมรณภาพอยู่ที่ใต้ต้นไม้ ในทุ่งนาท้ายหมู่บ้านสินสมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา  จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยตำบลสัมฤทธิ์    

 

 

 

ขนลุกซู่เลย! ชาวบ้านโคราชเห็นชายผ้าเหลืองปลิวไหวๆอยู่ใต้ต้นไม้เดินไปดูนึกกว่าพระธุดงค์แต่กลับต้องช็อกหนักเพราะสิ่งที่มโนไว้ไม่ได้เป็นแบบนั้น

 

     ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาห่างจากบ้านเรือนประชาชนประมาณ 100 เมตร และที่ใต้ต้นมะขามเทศใหญ่กลางทุ่งนาพบศพพระสงฆ์ทราบชื่อพระอุดม อายุ 47 ปี ใช้เชือกสายเปลผูกคอตนเองมรณภาพอยู่ในท่านั่งคุกเข่าสวมเพียงผ้าสบงผืนเดียว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่ามรณภาพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง

 

 

 

ขนลุกซู่เลย! ชาวบ้านโคราชเห็นชายผ้าเหลืองปลิวไหวๆอยู่ใต้ต้นไม้เดินไปดูนึกกว่าพระธุดงค์แต่กลับต้องช็อกหนักเพราะสิ่งที่มโนไว้ไม่ได้เป็นแบบนั้น

     จากการสอบถามนายสมพร  ยิบกลาง ผู้พบศพเป็นคนแรกเล่าว่าระหว่างที่ตนกำลังยืนอยู่หน้าบ้านแล้วเหลือบไปเห็นที่ทุ่งนาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก  เห็นพระนั่งอยู่ที่ใต้ต้นมะขามเทศหันหน้ามาทางถนน ตนจึงเดินเข้าไปดูเพราะคิดว่าเป็นพระธุดงค์ พอเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่ามีเชือกผูกคอมรณภาพแล้วจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

 

 

 

ขนลุกซู่เลย! ชาวบ้านโคราชเห็นชายผ้าเหลืองปลิวไหวๆอยู่ใต้ต้นไม้เดินไปดูนึกกว่าพระธุดงค์แต่กลับต้องช็อกหนักเพราะสิ่งที่มโนไว้ไม่ได้เป็นแบบนั้น

 

 

 

     ด้านนางสมจิตร อายุ 50 ปี พี่สาวของพระอุดม เล่าว่า น้องชายคือพระอุดมเพิ่งบวชเป็นพระเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา  จนเมื่อคืนที่ผ่านมาพระอุดม ได้หายออกจากวัดไป ทางญาติๆ ได้ช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบ จนมีผู้มาพบกลายเป็นศพไปแล้ว  จากการสันนิษฐานคาดว่าพระอุดม คงจะเครียดเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวเพราะลูกสาวก็เพิ่งประสบอุบัติเหตุต้องเสียค่ารักษาพยาบาลกว่า 3 หมื่นบาท และแม่ยายก็ป่วย แต่พระไม่สามารถช่วยเหลือได้จึงทำให้เครียดและหาทางออกด้วยการผูกคอตนเองมรณภาพดังกล่าว

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์