รีบไหว้ขอโทษโดยพลัน!!! สาวบัญชีถึงกับหน้าจ๋อยหลังแจ้งตร.เจอแท็กซี่รมยา ก่อนรู้ความจริงหลังโชเฟอร์-แพทย์-ตร.เล่าที่มาที่ไป?

พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมสอบปากคำนายอรัญ หยวกแย้ม อายุ 59 ปี คนขับรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทว-8017 กรุงเทพมหานคร สีฟ้า หลังจากชุดสืบสวนสามารถติดตามจนพบและเชิญตัว พร้อมนำรถมาตรวจสอบเพิ่มเติมที่ สภ.คูคต เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำมิดีมิร้ายกับให้ผู้โดยสารสาว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อ น.ส.รุจิรา สุริโย อายุ 26 ปี พนักงานบัญชี ผู้เสียหายให้เดินทางมา

 

 

 

 

 

 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. สาวผู้เสียหาย พร้อมญาติ เดินทางมาถึงโรงพัก ก่อนชี้รถแท็กซี่ได้อย่างถูกต้องตรงกับเลขทะเบียน ที่ถ่ายรูปไว้ก่อนลงจากรถ จากนั้นได้พบกับคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งพ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ได้ให้ทั้งคู่พูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้น น.ส.รุจิรา ได้ขึ้นไปนั่งในรถของนายอรัญ เพื่อพิสูจน์กลิ่นภายในรถอีกครั้ง ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่ากลิ่นเดิมแบบเมื่อคืน จากนั้นนายอรัญ ได้นำกระปุกยาดมสมุนไพรตำรับชาววัง ซึ่งเป็นขวดแก้วทรงลี มาให้ผู้เสียหายดม และไม่ได้เป็นการรมยาอย่างที่ผู้เสียหายคิดแต่อย่างใด แต่ไม่ทราบว่าทำไมกลิ่นยาถึงทำให้ร่างกายของ น.ส.รุจิรา ถึงมีการอาการแบบนั้น
          

โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุในวันเวลาดังกล่าว ตนเองไม่ค่อยสบาย จึงดมยาดมตลอดทาง และรับ น.ส.รุจิรา มาจากหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ย่านรังสิต จริง และเมื่อขับมาถึงหน้าวัดสายไหม จู่ๆผู้โดยสารก็ขอลงจากรถ พร้อมกับให้เงิน 120 บาท ตนก็ไม่ทราบว่าลงเพราะสาเหตุอะไร จนมาเป็นข่าวช่วงเช้า และมีตำรวจมาตามหา จึงรีบมาแสดงตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

 

ส่วน น.ส.รุจิรา หลังได้ตรวจดูและพูดคุยกับคนขับแท็กซี่ จึงรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิด จึงได้ยกมือไหว้ขอโทษลุงคนขับรถแท็กซี่ และไม่ติดใจเอาความ พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้ทั้งสองฝ่ายก่อนแยกย้ายกันกลับไป

 

ขณะที่แพทย์จาก รพ.ภูมิพล ซึ่งได้บอกกับผู้เสียหายว่า ไม่ใช่ลักษณะการถูกรมยาอย่างแน่นอน แต่อาจจะเป็นระบบหรือกลิ่นก๊าซ NGV มากกว่า ซึ่งอาจมีจุดที่ผิดปกติ เพราะช่วงดังกล่าว รถจอดติดอยู่กับที่ จึงทำให้กลิ่นก๊าซเข้ามาผสมกับกลิ่นยาดม ทำให้มีอาการดังกล่าว

 

ด้าน พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ติดตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนพบและติดตามตัวคนขับให้มาแสดงตัว พร้อมประสานผู้โดยสารที่เป็นผู้เสียหาย มาพิสูจน์ความจริง จนสามารถเข้าใจและไม่ติดใจกับเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนเรื่องรถแท็กซี่นั้น ทางพนักงานสอบสวน จะได้ส่งให้ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง ตรวจสอบสภาพรถว่ามีจุดใดผิดปกติ หรือมีกลิ่นก๊าซ NGV รั่วซึมเข้ามาในรถหรือไม่ เพื่อทำการแก้ไขปรับปรุง เพื่อไม่ให้ไปเกิดขึ้นกับผู้โดยสารคนอื่นต่อไป.
         

ก่อนหน้านั้น พ.ต.ท.กมลรัตน์ พาน้อย สว.สอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีหญิงสาวถูกมอมยาบนรถแท็กซี่ มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามวัดสายไหม ริมถนนคูคต-ลำลูกกา หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เศรษณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ 

 

 

 

 

 

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.รุจิรา สุริโย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.3 ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กำลังอยู่ในอาการสะลึมสะลือ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่อาการจะดีขึ้น 

 

ทั้งนี้ น.ส.รุจิรา เล่าว่า ตนทำงานเป็นพนักงานบัญชี อยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยได้นั่งรถทัวร์กลับมาจากบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ และมาลงรถที่หน้าโรงภาพยนต์เมเจอร์รังสิต เมื่อเวลาเกือบ 6 โมงเย็น จากนั้นจึงเรียกรถแท็กซี่มิเตอร์ สีฟ้า เพื่อให้ไปส่งที่บ้านพักย่านลาดพร้าว 71 โดยนั่งที่เบาะหลัง 

 

ระหว่างทางคนขับแท็กซี่ อายุประมาณ 50 ปีเศษ ได้บอกว่า ไปทางแยกลาดพร้าวรถติดมาก จึงขับรถพาตนวิ่งมาตามเส้นทางถนนลำลูกกา และระหว่างช่วงก่อนถึงหน้าวัดสายไหม ตนเห็นคนขับแท็กซี่ ดื่มน้ำไปหมดเกือบครึ่งขวด และก็เอายาดมขึ้นมาสูดดม พอตนเองได้กลิ่นไม่ถึง 3 นาที ก็เริ่มมีอาการหัวใจเต้นแรง หนาว และเหมือนจะหลับ รู้สึกว่าขาเริ่มชาเหมือนจะไม่มีแรง เริ่มหายใจไม่ค่อยสะดวก และช่วงจังหวะนั้น ตนเห็นว่าเป็นช่วงรถกำลังติด จึงรีบควักเอาเงินให้คนขับไป 120 และรีบเปิดประตูลงจากรถทันที

นอกจากนั้นก่อนที่ตนจะลงนั้นได้หยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายเลขทะเบียนรถที่ติดอยู่ข้างประตูเอาไว้ได้ แต่ไม่ทราบหมวดจังหวัด จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งญาติ เพื่อให้แจ้งตำรวจ ต่อมามีกู้ภัยฯมาช่วย จนมีชาวบ้านมาพบเห็นและสอบถามก่อนแจ้งตำรวจและนำตนมาที่ สภ.คูคต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานนำผู้เสียหายส่งตัวไปตรวจที่ รพ.ภูมิพล ต่อไป

 

ทางด้าน พ.ต.ท.กลมรัตน์ กล่าวว่า โชคดีที่ผู้เสียหายมีสติดีมาก จึงรอดปลอดภัยในครั้งนี้ โดยไม่ได้สูญเสียทรัพย์สินใดๆ และจากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียหายยังได้มีการถ่ายเลขทะเบียนรถเอาไว้ จึงทำการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ก่อนที่ ทางผกก.สภ.คูคต ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทาง และตรวจสอบทะเบียนรถแท็กซี่คันดังกล่าว เพื่อติดตามตัวผู้ขับขี่มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์