- 09 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
จากกรณีการพบศพ นายรัติภูมิ พิมใจใส อายุ 34 ปี เซลส์แมนขายรถ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2559 ที่รพ.ศิริราชเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 และทางคณะแพทย์ได้ออกมาแถลงผลการชันสูติพลิกศพว่า เป็นการเสียชีวิตด้วยอาการแทรกซ้อน ภาวะตับและไตล้มเหลว รวมทั้งพบสารเมทแอมเฟตามีนในเลือด จากนั้นทางญาติได้ติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดช่องลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ต่อมาทางด้าน นายรัตนชัย น้องชายผู้ตาย ได้ออกมาเปิดเผย จนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังสงสัยในสาเหตุการตายที่แท้จริงของนายรัติภูมิ เพราะจากการดูศพพบว่ามีรอยบาดแผลหลายแห่งในร่างกาย เช่นรอยแผลขนาดใหญ่เหมือนถูกไฟช็อตที่มือด้านซ้าย แผลที่โหนกแก้มซ้าย หน้าตาที่เบี้ยวผิดรูป ข้อมือขวาที่หัก และอีกหลายๆ แห่ง จึงตั้งข้อสงสัยว่านายรัติภูมิโดนทำร้ายก่อนร่างกายก่อนตายหรือไม่
ล่าสุดนายรัตนชัย ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ธรรมศาลา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเหตุข้อสงสัยต่าง ๆ โดยเฉพาะการประสานให้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามาดูแลการผ่าพิสูจน์ศพอย่างละเอียด และวินิจฉัยถึงบาดแผลหลายๆ แห่งในร่างกายพี่ชายอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปสาเหตุที่ชัดเจนของบาดแผลอีกครั้ง
ขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รองผบก.น.7 พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าตำรวจที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการร่วมประชุมคลี่คลายคดีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเสียชีวิตของของนายรัติภูมิ พร้อมกับได้เชิญ นายฐิติ ไกรรักษ์ อายุ 29 ปี และนายวิธัช วงษ์ชารี อายุ 19 ปี อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อพปร.) ซึ่งเป็น 2 คนที่พบนายรัติภูมิ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมาเข้าให้ข้อมูล
ทั้งนี้พล.ต.ต.สมพงษ์ ระบุว่า ขณะนี้ได้มอบหมายงานให้ฝ่ายต่างๆ ไปทำงานแล้ว ทั้งประเด็นที่ญาติติดใจคือ มีใครบังคับให้เสพยาหรือไม่ หลังจากแพทย์ลงความเห็นว่ามีสารเสพติดในร่างกาย รวมถึงประเด็นที่ว่ามีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ โดย คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน คงทราบผล และความจริงทั้งหมดจะกระจ่าง
“สำหรับบาดแผลที่พบบริเวณใบหน้านั้น พอทราบได้ว่าในวันที่พบนายรัติภูมิ บริเวณหน้าปั้มน้ำมันบางจาก ตอหม่อที่147นั้น นายรัติภูมิมีอาการคลุ้มคลั่ง โดยเอาใบหน้าทั้ง 2 ข้าง ถูกับพื้น เจ้าหน้าที่อพปร.ได้นำน้ำเกลือไปเช็ดหน้าให้ ก่อนจะนำไปส่งรพ.ศิริราช อย่างไรก็ตามเบื้องต้นขอสอบแพทย์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ต่างๆ คาดว่าในวันเสาร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ จะทราบผล และสามารถชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ได้”
ทางด้านนายฐิติ เปิดเผยว่า ในวันที่เจอนายรัติภูมิครั้งแรกบริเวณหน้าปั้มบางจาก คิดว่าคนละคนกัน เนื่องจากภาพในรูปที่มีการเผยแพร่ตามสื่อมวลชน นายรัตภูมิใส่สูท หน้าจะอวบอิ่ม ผิวใส แต่บุคคลตรงจุดเกินเหตุต่างกันมาก ทั้งผอม แก้มตอบ โทรม จึงไม่เอะใจอะไร ถ้าตนรู้ว่าบุคคลที่พบคือนายรัติภูมิ ตนก็คงออกมาช่วยตามหาตั้งแต่วันแรกแล้ว
ขณะที่นายวิธัชกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนกับนายฐิติกำลังจะไปเข้าเวรกันตามปกติ ต่อมาเด็กปั้มน้ำมันบางจากได้ติดต่อหานายฐิติว่ามีชายนิรนามโดนรถเฉี่ยวจึงออกมาดู เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นบุคคลดังกล่าวล้มอยู่เกาะกลางถนน และเดินไปเดินมา จนสะดุดล้ม หัวฟาดกับแผงเหล็ก จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่สน.ตลิ่งชัน เมื่อเจ้าหน้าที่มาก็จับใส่กุญแจมือ แต่ชายคนดังกล่าวดิ้น ตัวเกร็ง และเอาหน้าถูกับพื้น จึงจับกดลงกับพื้น และอุ้มมาบริเวณข้างทางถนนบรมราชชนนีขาออก โดยจับนอนหงาย มือทั้ง 2 ข้างไขว้ไปด้านหลัง ระหว่างรอรถเจ้าหน้าที่มารับ ก็ทำความสะอาดใบหน้าให้ ก่อนคุมตัวมาที่สน.ตลิ่งชัน แต่เนื่องจากชายนิรนามคนดังกล่าวมีอาการชักเกร็ง ตาเหลือก จึงรีบนำส่งรพ.ศิริราชและมาทราบภายหลังว่าเป็นนายรัติภูมิที่ทุกคนกำลังตามหา
“ต้องยอมรับช่วงระยะเวลา 8 วันที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุ ไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะเป็นคนไม่ได้ติดตามโซเชียลเลย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำรูปนายรัติภูมิมาให้ดู พอดูไปเรื่อยๆ เริ่มมีเค้าโครงเดียวกับชายนิรนามที่คลุ้มคลั่ง จึงแจ้งไปว่าได้นำส่ง รพ.ศิริราชไปแล้ว”
เรียบเรียง : สุรเดช สำนักข่าวทีนิวส์