พูดให้คนไทยรมณ์ขึ้น!!! "วรชัย"เฉ่งอนุกก.ปรองดองมีแต่คู่ขัดแย้งฝ่ายปชต. แบไต๋อยากพ่วงนิรโทษบอกนำผลศึกษาเดิมมาใช้ดีกว่า?

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคณะกรรมการเตรียมการสร้างความปรองดอง ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมเป็นผู้ขับเคลื่อน ว่า การสร้างความปรองดองตอนแรกเห็นว่าพล.อ.ประวิตร จะให้ทหารที่ฝ่ายประชาธิปไตยมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งมาขับเคลื่อน เราก็มองว่าการปรองดองเดินหน้าได้ยากแล้ว แต่นี้ยังเอา นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ซึ่งเรามองว่าเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายประชาธิปไตย มาเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองอีก เมื่อคนที่จะขับเคลื่อนการปรองดองมีแต่คนที่มีส่วนได้เสียกับการยึดอำนาจ แต่ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตยเลยอย่างนี้ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

 

 

พูดให้คนไทยรมณ์ขึ้น!!! "วรชัย"เฉ่งอนุกก.ปรองดองมีแต่คู่ขัดแย้งฝ่ายปชต. แบไต๋อยากพ่วงนิรโทษบอกนำผลศึกษาเดิมมาใช้ดีกว่า?



 

"ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.บอกว่า อย่าสนใจที่ตัวบุคคลให้มองที่ผลของงานนั้น ถ้าคนเป็นคู่ขัดแย้งมาเป็นอนุกรรมการเขาก็มีมุมมองของเขาฝ่ายเดียว ดังนั้นก็ควรเอาคู่ขัดแย้งทั้งหมดที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้วยจะดีกว่า หรือไม่เช่นนั้นก็นำผลการศึกษาที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายการหน้านี้มาดำเนินการเสียเลย"

ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า การตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) นั้น อย่ามองว่าเป็นเวทีฟอกตัวหรือให้เครดิตใคร แต่เป็นเวทีที่มาพูดคุยกัน โดยจะไม่นำปัญหาเดิมมาพูดคุยเพราะการปฏิรูปจะไม่นำเรื่องที่มีความขัดแย้งสูงมาพูด

 

 

 

พูดให้คนไทยรมณ์ขึ้น!!! "วรชัย"เฉ่งอนุกก.ปรองดองมีแต่คู่ขัดแย้งฝ่ายปชต. แบไต๋อยากพ่วงนิรโทษบอกนำผลศึกษาเดิมมาใช้ดีกว่า?

 

ทั้งนี้ เชื่อมั่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในการทำงานเรื่องปรองดอง และขออย่าไปกดดันและจับผิด และการปรองดองไม่สามารถเกิดได้ภายใน 3 เดือน เพราะปัญหาเกิดมานานและไม่ได้ปรองดองเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเอาปัญหามาคลี่ออก

 

สำหรับที่ยังมีบางฝ่ายการเมืองยังไม่เห็นด้วยและเข้าร่วมการปรองดองนั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนปลายทางของการปรองดองไม่จำเป็นต้องมีการเซ็นสัญญาประชาคม เพราะเซ็นแล้วก็เบี้ยวได้หมด แต่เป็นเพียงการแบบสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเสมือนสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

 

ก่อนหน้านั้นในปี 2556  นายวรชัยเคยเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทรกรรม โดยอ้างว่าเพื่อนไปสู่ความปรองดองคนในชาติ แต่่ต่อมากฎหมายฉบับดังกล่าวถูกนำไปแปลงร่างเป็นกม.นิรโทษกรรมคดีความให้กับนายทักษิณ ชินวัตร  จนถูกเรียกว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย  และทำให้คนไทยลุกฮือต่อต้านจนเกิดเป็นกลุ่มมวลชนในชื่อกปปส.และผู้เข้าร่วมนับสิบล้านคน

 

 

 

 

 


เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์