ก็ดีกว่าไปลักขโมยใครเขา!!! เผยอีกมุมชีวิต "ลุง รปภ." นักเต้น โดนดูถูก เปรียบเหมือนหมาเฝ้าบ้าน ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ!!! (มีคลิป)

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก "คนเมืองเหนือ" ได้โพสต์เรื่องราวอีกมุมของชีวิต "ลุงรปภ." นักเต้น ที่ไม่ได้เพียงโบกรถธรรมดาแต่ลุงยังคอยสร้างสีสรรค์ให้กับผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้มีรอยยิ้ม  โดยเล่าว่า...

ก็ดีกว่าไปลักขโมยใครเขา!!! เผยอีกมุมชีวิต "ลุง รปภ." นักเต้น โดนดูถูก เปรียบเหมือนหมาเฝ้าบ้าน ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ!!! (มีคลิป)

"ตอนแรกก็โบกธรรมดานี่แหละ...

"ผมเคยเป็นรปภ.บริษัทนึงอยู่ได้ 11 ปี แล้วเจอหัวหน้าคนใหม่เขามีนอกมีใน ผมเป็นคนไม่ชอบความไม่ถูกต้อง ผมขัดเขาอยู่เรื่อย เขาก็เลยกลั่นแกล้งผมต่างๆ นานา ผมรำคาญก็เลยลาออกซะเลย คิดซะว่าเป็นเวรกรรม คนทำแบบนี้มันไม่ได้ดีหรอก มาอยู่กับบริษัท G4S เพิ่งมาอยู่ตรงนี้ได้ 2 ปีกว่า ตอนแรกก็โบกธรรมดานี่แหละ แต่ผมไปเห็นตำรวจจราจรเขาทำท่าทำทางแล้วมันดูสวยดี มันน่าจะทำให้คนเขามีความสุขได้ ผมชอบทำให้คนอื่นเขามีความสุข ทำให้คนอื่นเขายิ้มเขาหัวเราะได้ มันเป็นความสุขอย่างนึงของผม ก็เลยลองเต้นดู คนผ่านไปผ่านมาเขาชอบ มีซื้อน้ำซื้อขนมมาให้ บางคนเขาถึงกับจอดรถปรบมือให้ บางทีก็ให้ตังค์บอก 'ลุงเอาไว้ซื้อข้าวกินนะ' ผมก็ชื่นใจ เขาให้ตังค์ผมมาผมก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด ไม่ได้เอาไปซื้อเหล้าซื้อบุหรี่ พอหัวหน้าเขาเห็นลูกค้าชอบเขาก็เลยไม่ให้ผมไปไหน จุดอื่นเขาเปลี่ยนกัน ผมก็อยู่อย่างนี้แหละ เข้า 10 โมงเช้าเลิก 4 ทุ่ม"

"บางครั้งก็โดนดูถูกบ้างอะไรบ้าง บางคนอาจจะมองว่าต่ำ บางคนเรียกหมาเฝ้าบ้านบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเราทำงานสุจริต เราไม่ได้ไปลักขโมยใครกิน แค่นี้ก็ภูมิใจละ บางคนเขามีหน้าที่ตำแหน่งการงานสูงกว่าเรา เขายังไม่มีความสุขในการทำงานเลย ผมเป็นแค่ยามทั่วไปเนี่ย ยังทำงานให้มีความสุขได้ ไม่ต้องเมาก็เต้นได้ ผมคิดแบบนี้นะ ว่าถ้าเราเผลอไปโมโหกระแทกกระทั้นใส่ใครเข้า สิ่งดีๆ ที่เราทำมามันเสียหมดเลย เขาจะบอกว่า 'รปภ.มันก็แค่นั้น' แล้วทุกอย่างก็จบ"

ก็ดีกว่าไปลักขโมยใครเขา!!! เผยอีกมุมชีวิต "ลุง รปภ." นักเต้น โดนดูถูก เปรียบเหมือนหมาเฝ้าบ้าน ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ!!! (มีคลิป)

ก็ดีกว่าไปลักขโมยใครเขา!!! เผยอีกมุมชีวิต "ลุง รปภ." นักเต้น โดนดูถูก เปรียบเหมือนหมาเฝ้าบ้าน ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ!!! (มีคลิป)

"ชีวิตครอบครัวผมนี่แตกแยกไป 7-8 ปีละ เมียเขาแต่งงานใหม่ไปแล้ว ก็ถือว่าเราหมดเวรหมดกรรมต่อกัน ผมก็กลับไปเลี้ยงแม่ เลี้ยงแม่ได้ 5-6 ปีแม่ก็จากผมไป พ่อก็ไม่อยู่ละ เหลือตัวคนเดียว บางทีก็เก็บกดนะ แต่เลิกงานเสร็จก็ต้องโยนไว้นี่ กลับบ้านอาบน้ำอาบท่า อยากกินข้าวก็กิน ไม่อยากกินก็นอน ลูกก็ไม่อยู่ด้วย เมียก็ไม่อยู่ด้วย พี่สาวก็อยู่อีกบ้าน พี่ชายก็ติดเหล้าเมาอยู่อีกบ้าน ไม่รู้จะทำยังไง เมียทิ้งน่ะครับ บางครั้งก็เหนื่อยใจจะขาด ก็ต้องทน"

 

เรียบเรียง Amity

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก คนเมืองเหนือ