ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....

ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....ไม่ใช่รอคำสั่งจากศาลฎีกาเพื่อให้รื้อฟื้นคดี

ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ทนายความ, นักพูด,ผู้บรรยายเรื่องกฎหมายทั่วไปของสภาทนายความ ได้อธิบายกระบวนการทางศาลเกี่ยวกับคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ที่ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้มีการรื้อคดีพิจารณาใหม่ หลังถูกตัดสินจำคุก ในคดีขับรถยนต์ชนคนตาย เนื่องจาก นางจอมทรัพย์ ยืนยันขณะเกิดเหตุตนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ซึ่งอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่ จ.นครพนม  เหตุเกิดเมื่อปี 2548 จนกระทั่งมีการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมมานานกว่า 10 ปี โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ส่วนศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แต่ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น ทำให้ครูจอมทรัพย์ติดคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน เนื่องจากได้รับการอภัยโทษออกมา เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา พร้อมร้องทุกข์ให้มีการรื้อคดีตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ได้รับความช่วยเหลือจากเฮียมาร์คเเละทนายวันชัย โดยทางด้านเฮียมาร์คนั้นได้นำเงินที่ได้จากผู้คนที่ต้องการช่วยเหลือคุณครูนั้นเป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 6 พันบาทเเต่ยังมอบให้ 1เเสนบาทเพื่อนำไปสู้คดี

ต่อมาในวันที่8 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า อกศจ.สกลนคร ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2560 วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 มีมติให้รับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร กลับเข้ารับราชการครูได้อย่างเดิม (คลิกอ่าน : อกศจ.มีมติให้รับนางจอมทรัพย์กลับเข้ารับราชกาลครู) แต่ต่อมา อกศจ.สกลนคร ยืนยันว่ายังไม่ได้ลงมติในเรื่องนี้ เนื่องจากติดเงื่อนไขใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกใบประกอบวิชาชีพครู ของครูจอมทรัพย์ ได้หมดอายุลงแล้ว เมื่อหลายปีก่อน จึงไม่สามารถกลับมารับราชการได้ (คลิกอ่าน : อกศจ.ยังไม่ลงมติรับครูจอมทรัพย์กลับเข้ารับราชกาลครู) 

จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือศาลจังหวัดนครพนม สืบพยานนัดแรกระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยมีการสรุปผลการสืบพยานของศาลจังหวัดนครพนม ว่ามีการสืบพยานฝ่ายผู้ร้องทั้งหมด 9 ปาก ส่วนพยานของ ผู้คัดค้าน คือ อัยการ และตำรวจ มีการสืบพยานทั้งหมด 15 ปาก ซึ่งถือว่าเสร็จสมบูรณ์ในการสืบพยาน

ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....

 

ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....

ทั้งนี้นายวันชัย ได้อธิบายเสริมถึงขั้นตอนกระบวนการทางศาลไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ "ศาลท่านให้แต่ละฝ่ายแถลงการณ์ปิดคดี ภายใน 30 วัน นั่นก็หมายความว่าฝ่ายของครูจอมทรัพย์ต้องยื่นเป็นคำแถลง ชี้แจงว่า พยานของตน มีน้ำหนักดีอย่างไร ฝ่ายตรงข้าม ไม่ดีอย่างไร และศาลควรตัดสินให้ฝ่ายเธอชนะด้วยข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอย่างไร เรียกว่าเป็นการเขียนแถลงโน้มน้าว ให้ศาลเชื่อฝ่ายตน และตัดสินให้ฝ่ายตนเป็นฝ่ายชนะ 

ไม่รู้จะจบลงอย่างไร !?!? คดีนางจอมทรัพย์ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่าจะพ้นผิดหรือไม่....

ในขณะเดียวกันฝ่ายอัยการก็จะต้องแถลงการณ์ปิดคดีภายใน 30 วัน เช่นกัน จะต้องชี้ให้เห็นว่าพยานฝ่ายของตนมีน้ำหนักอย่างไร ของครูจอมทรัพย์ ไม่ดีอย่างไร ฝ่ายเขาควรจะชนะ คลังข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างไร นี่เรียกว่าเป็นการแถลงการณ์ปิดคดี จากนั้นศาลจะรวบรวมสำนวนเสนออธิบดี และส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาตัดสินต่อไป รวมรวมแล้วคงใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่งจึงจะทราบผล แต่ถ้าศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของครู ดีมีน้ำหนัก ฝ่ายอัยการ สู้ไม่ได้ ก็อาจตัดสินกลับคำพิพากษาศาลเดิม คือศาลฎีกาที่ตัดสินไว้เป็นการตัดสินใหม่ว่ายกฟ้อง แต่ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่นำสืบแล้วไม่ดีไม่มีน้ำหนัก ก็อาจจะยกคำร้องของครูไป คือเท่ากับไม่เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าศาลฎีกาท่านจะตัดสินอย่างไร ก็มีอยู่ 2 ประตู คือ"กลับคำพิพากษาของศาลฎีกาเดิม" หรือ"ยกคำร้อง" เท่านั้น (คลิกอ่าน : แจงขั้นตอนรื้อคดีครูจอมทรัพย์หลังสืบพยานเสร็จ)

 

 

 

เรียบเรียง.....Sineenut