เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 1 บ้านเหล่าป่าสา ต.ขุนฝาง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีชายวัย 73 ปี ถูกผึ้งเพียงตัวเดียวต่อยเข้าที่นิ้วเท้า จนกลายเป็นแผลเน่าเหม็นกัดกินเนื้อเหลือแต่กระดูกและเอ็น ยึดข้อเท้า ทุกข์เวทนาเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาผ่าตัดขาเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด ด้วยฐานะที่ยากจน วอนผู้ใจบุญช่วยรักษา

ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปตรวจ สอบที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวก่อด้วยอิฐบล็อค หลังคามุงด้วยสังกะสี  พบนายหลี ดีทา อายุ 73 ปีนั่งอยู่บนเตียงพร้อมครอบครัวที่ บริเวณหน้าบ้าน มีอาการป่วยด้วยโรคแผลติดเชื้อ โดยเฉพาะที่บริเวณขาด้านขวา ปลายเท้ามีสีดำคล้ำส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีแมลงวันคอยมาตอมที่เท้า ถัดจากปลายเท้าขึ้นมาเกือบถึง หัวเข่าพบเนื้อที่บริเวณน่องรวมถึงเส้นเลือดหลุดหายไปเหลือแต่ กระดูกหน้าแข้ง พร้อมกับเอ็นยึดกระดูกหน้าแข้งและหลังรวมไปถึงเอ็นร้อยหวายสำหรับยึดข้อเท้าไม่ให้หลุดจากกัน เป็นที่น่าสยดสยองต่อผู้พบเห็นเป็นอย่าง มาก

โดยมีลูกสาวคนโตและคนที่ 2ต้องช่วยกันล้างบาดแผลให้ กับคุณพ่อ ด้วยการนำกรรไกรมาตัดผ้าพันแผลออกแล้ว นำน้ำเกลือชนิดขวดเทราดบนบาดแผลพร้อมนำสำลีนุ่มคอย

เช็ดชำระล้างตามไปด้วยจนกระทั่งเสร็จ แล้วใช้ผ้าก๊อตปิด บาดแผลไว้เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้แมลงวันตอมหรือแผล ที่เป็นอยู่โดนวัสดุอื่นขีดข่วนเอา สำหรับบาดแผลที่พบเห็น นั้นเกิดจากการติดเชื้อ เนื่องจากขาดการดูแล รักษาที่ดี

น.ส.รุ่งอรุณ  ดีทา บุตรสาวคนโต เล่าให้ฟังว่า ช่วงกลาง เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คุณพ่อรู้สึกปวดท้องอยากเข้า ห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้กับตัวบ้าน ระหว่างทางถูกผึ้งเลี้ยงที่ ชาวบ้านแถวนี้เลี้ยงเอาไว้เพื่อหวังน้ำผึ้งไปขายจำนวน 1 ตัว ต่อยเข้าที่บริเวณหัวแม่เท้าหรือหัวนิ้วโป้งข้างขวา เพียงไม่ กี่วันหัวนิ้วโป้งที่ถูกผึ้งต่อยเกิดอาการบวมขึ้นและเป็นหนอง จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ครั้งแรก ตามโครงการ บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำการล้างแผลและพบ บาดแผลรุนแรงเนื่องจากติดเชื้อ นัดครั้งที่ 2 ให้อดน้ำ และอาหารเพื่อตรวจโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ อาทิ โรคปอด โรคหัวใจ พร้อมตรวจเช็คบาดแผลที่เท้าอีกครั้งพบว่าเส้นเลือดเกิดอุดตัน แพทย์จึงจ่ายยาขยายหลอดเลือดให้ทาน ที่บ้าน และนัดตรวจอาการเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27  มกราคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากคุณพ่อนอนลุกไม่ขึ้น จึงผิดนัดหมอและไม่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์อีกเลย กระทั่งเนื้อบนฝ่าเท้าข้างขวาตายด้าน มีสีดำคล้ำ เริ่มเน่า และส่งกลิ่นเหม็น กระทั่งเกิดเป็นแผลติดเชื้อกัดกินเนื้อที่ บริเวณหน้าแข้งจนเห็นกระดูกและเส้นเอ็นหากจะให้บาดแผลนี้หายจะต้องรับการผ่าตัดซึ่งจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่บ้านมีฐานะยากจน มีพี่น้อง 4 คน สลับผลัดเปลี่ยนกันดูแลพ่อ ทุกคนยึดอาชีพรับจ้างรายวันและมีครอบครัวแล้ว ค่าใช้จ่ายก็ต้องเลี้ยงดูครอบครัว และไหนยังต้องสลับสับเปลี่ยน กันมาดูแลพ่อ ส่วนแม่ก็อายุมาก ได้อาศัยเงินที่ได้จากเบี้ยยังชีพดูแลตัวเอง

น.ส.นิรันดร์  ดีทา บุตรสาวคนที่ 2 กล่าวด้วยน้ำตาว่า เป็นผู้ดูแลล้างแผลที่ขาให้คุณพ่อทุกวัน นำน้ำเกลือมาเทราดตรงที่ปลายเท้าทุกวัน สังเกตที่บริเวณหน้าแข้งพบบาดแผล

ลุกลามกินลึกเข้าไปถึงเนื้อใน ล้างทุกวันก็พบเห็นเนื้อเกิดหลุดรุ่ยจึงใช้กรรไกรตัดตรงส่วนที่หลุดรุ่ยออก ยิ่งล้างบาดแผลทุกวันก็ยิ่งพบเห็นเนื้อหลุดออก มาเรื่อยจนเห็นกระดูกน่อง กระดูกหน้าแข้ง พร้อมกับเอ็นยึด กระดูกหน้า แข้งและหลัง รวมไปถึงเอ็นร้อยหวายที่ยึด ข้อเท้าไม่ให้หลุดจากกัน นับเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว ล้างแผลให้พ่อไปก็สงสารพ่อตลอดเวลา ทุกวันมีค่าใช้จ่าย ในการซื้อน้ำเกลือและสำลีล้างแผล ผ้าก๊อตสำหรับพันขา เพื่อไม่ให้แผลถูกรอยขีดข่วนหรือแมลงวันตอม  อยากร้องขอผู้ใจบุญช่วยสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายใน

การรักษาพยาบาลและค่าผ่าตัดขาให้กับคุณพ่อด้วย โดยโอนเข้าบัญชี น.ส.นิรันดร์ ดีทา ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร สาขาวังสีสูบ เลขบัญชีที่ 565-2-30808-7

สมภพ  สินพิพัฒนฤดี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุตรดิตถ์ รายงาน