ไม่จำบทเรียน!!! “ชินวัฒน์”เชียร์ปรองดองนิรโทษฯสุดซอยพ่วง“ทักษิณ”รวมแก๊งหมิ่นสถาบัน “บก.ลายจุด”รีบแตะเบรกทำทีละเรื่องก่อน???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       สถาบันพระปกเกล้า จัดเสวนาหัวข้อ ก้าวผ่านวันวาน สมานรัก วาเลนไทน์ โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มองว่าการสร้างความปรองดองถือว่านับหนึ่งถูกแล้ว แต่จะนับสองถูกหรือไม่ยังไม่รู้ โดยเราต้องเริ่มคิดใหม่และถามว่าจะเสียสละอะไรได้บ้าง การปรองดองต้องเลือกที่จะลืมบางเรื่องและจำบางเรื่อง แต่ที่ผ่านมาที่การปรองดองไม่ได้ผลเพราะเลือกที่จะจำแต่ไม่ลืม แต่พอบอกว่าจะให้เลือกที่จะลืมก็จะมีปัญหาเพราะจะนำไปสู่การนิรโทษกรรม คือการบังคับให้ลืม (คลิ๊ก : นายกฯลั่นปรองดองไม่เริ่มที่นิรโทษกรรม )

ทั้งนี้เรื่องนิรโทษกรรมนั้นต้องคุยแน่นอน โดยเฉพาะคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งอยากถามว่าหากให้นิรโทษกรรมคดีกบฏ หรือคดียึดสนามบินจะยอมได้หรือไม่ แต่ตนมองว่าหากนิรโทษกรรมต้องรวมคดีเหล่านี้ด้วยเพราะมาจากแรงจูงใจทางการเมือง แต่การนิรโทษกรรมสุดซอยนั้นก็จะเป็นปัญหา

ไม่จำบทเรียน!!! “ชินวัฒน์”เชียร์ปรองดองนิรโทษฯสุดซอยพ่วง“ทักษิณ”รวมแก๊งหมิ่นสถาบัน “บก.ลายจุด”รีบแตะเบรกทำทีละเรื่องก่อน???

       ขณะที่นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่จะปรองดองได้ไม่ใช่แค่การจัดเวทีหารือแล้วเลิกกัน แต่ต้องเกิดจากใจ ทุกคนต้องตั้งใจว่าจะทำเรื่องการปรองดอง และต้องทำใจลืมเรื่องที่ควรลืมและจำเรื่องที่ควรจำ หากจะปรองดองโดยไม่ค้นหาเหตุก็จะกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องความไม่เป็นธรรม ซึ่งตนว่าหากมีแค่ ป.ย.ป.ทำเรื่องปรองดองอย่างเดียวนั้นไม่สำเร็จ แต่ต้องมีภาคประชาชนร่วมเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ โดยเรื่องนิรโทษกรรมตนมองว่าต้องนิรโทษกรรมแบบสุดซอยเลย เหมือนกรณีคำสั่ง 66/23 โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมในส่วนของคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง รวมถึงคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นยังรวมถึงคดี 112 ที่มีแรงจูงใจจากการเมือง เพราะจริงๆแล้วคนไทยทุกคนจงรักภักดี แต่คนที่ทำให้สถาบันมัวหมองคือคนที่ต้องการผลประโยชน์ทางการเมือง

ไม่จำบทเรียน!!! “ชินวัฒน์”เชียร์ปรองดองนิรโทษฯสุดซอยพ่วง“ทักษิณ”รวมแก๊งหมิ่นสถาบัน “บก.ลายจุด”รีบแตะเบรกทำทีละเรื่องก่อน???

       ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวด้วยว่า ตนเห็นด้วยกับการปรองดองเพราะปัญหาความขัดแย้งมีเพียง 2 ทาง คือ หากทำแบบเดิมๆและสู้กันต่อ หรือจะหาวิธีอื่นเพื่อแก้ปัญหา ทั้งนี้ที่ผ่านมาเราไม่ได้สู้กันว่าจะเอาหรือไม่เอาอะไรแต่กลับสู้กันว่าเอาหรือไม่เอาใคร โดยมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู ดังนั้นตอนมองว่าเราต้องมาคุยกันว่าจะเอาหรือไม่เอาอะไร ส่วนการให้อภัยนั้นต้องให้อภัยทุกฝ่าย

 

       “ การนิรโทษกรรมนั้นควรจะทำในเรื่องที่ไม่ขัดแย้งกันก่อน เช่น คดีของมวลชน คดีเล็กๆน้อยๆ ที่ทำแล้วไม่ทะเลาะกัน ส่วนกรณีตัวแกนนำนั้นจะต้องมีกระบวนการที่เขาต้องพิสูจน์ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีการแสดงความรับผิดชอบคิดว่าหากไม่มีการทำให้ใครตาย มีการออกมายอมรับผิดแล้วขออภัยกันสังคมคิดว่าว่าสังคมยอมรับได้ แต่หากมีการทำให้คนตายก็ต้องให้ความยุติธรรมกับครอบครัวผู้ตายด้วย เพราะกระบวนการปรองดองจะต้องมีความยุติธรรมด้วย ส่วนจะออกมารูปแบบใดก็ว่าไป แต่จะต้องให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ” นายสมบัติกล่าว

(คลิ๊ก : "สุริยะใส" แนะ ปยป. 5 ข้อปรองดอง อย่าตั้งธง อย่าหักดิบมัดมือชกซ้ำรอยพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย )

ไม่จำบทเรียน!!! “ชินวัฒน์”เชียร์ปรองดองนิรโทษฯสุดซอยพ่วง“ทักษิณ”รวมแก๊งหมิ่นสถาบัน “บก.ลายจุด”รีบแตะเบรกทำทีละเรื่องก่อน???

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์