- 15 ก.พ. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
ปฏิบัติการบุกวัดธรรมกาย เพื่อนิมนต์ “ธัมมชโย” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีฟอกเงินและรับของโจรที่เชื่อมโยงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นระลอก และเงียบหายมาเป็นระยะ หลังจากออกหมายจับและนำกำลังบุกเข้าวัดครั้งแรกเมื่อ 19 มิ.ย.2559 ผ่านมาแล้ว 8 เดือนเต็มพอดี ครั้งนั้น หลังประเมินกำลังกองทัพศิษยานุศิษย์อยู่ครึ่งวัน ก็ถอยทัพกลับมาตั้งหลัก โดยให้เหตุผลว่าจะต้อง“ปรับแผน”เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือเสียเลือดเนื้อคนไทยด้วยกัน
จนผ่านไปอีกร่วมครึ่งปีเมื่อช่วงปีใหม่ จึงได้มีการนำกำลังตำรวจหลายร้อยนาย รวมตัวกันตั้งแต่ตี 5 ไปเลียบๆ เคียงๆ หน้าประตูหลักของวัดแต่สุดท้ายก็เป็นเพียงปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งกีดขวาง ที่วัดนำมาวางไว้เพื่อป้องกันการบุกของเจ้าหน้าที่
แฟ้มภาพ
ก่อนที่ล่าสุดกระแส “บุกวัด” จะคึกคักขึ้นมาอีกรอบ หลังจากพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอนำทีมเข้าหารือกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมฝ่ายทหารเพื่อเป็นการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ ของวัดพระธรรมกายและมูลนิธิต่างๆในเครือข่าย เพื่อประกอบการดำเนินคดี โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารที่ทับคลองสาธารณะ และการบุกรุกที่สาธารณะ
ขณะเดียวกันก็มีการพูดถึง “ปฏิบัติการครั้งใหม่" กำหนดให้พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบการสนธิกำลังเข้าจับกุมตัว โดยใช้กำลัง“ทหารกองทัพภาคที่ 1” เป็นกำลังหลักในการปิดล้อมพื้นที่วัด ไม่ให้มวลชนเข้าไปขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางไปไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm Back บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าวัดพระธรรมกาย โดยตอนหนึ่ง นายชูวิทย์ ได้กล่าวว่า จากสายข่าวของตน ที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ ตนมั่นใจว่า พระธัมมชโย ไม่ได้อยู่ภายในวัดธรรมกายแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ในวัดนานแล้วด้วย โดยนายชูวิทย์ยังระบุอีกว่า หากพระธัมมชโยหนีไปประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่นั่นมีวัดสาขาของธรรมกายอยู่และขอเป็นผู้ลี้ภัยก็อาจจะทำได้ แต่เชื่อว่าครั้งนี้ประชาชนจะไม่ตื่นเต้น เพราะประชาชนไม่เชื่อแล้วว่าจะสามารถจับกุมพระธัมมชโยได้
กรุณารอคลิปสักครู่...
เรียบเรียง Amity
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm Back