“ปี52-53นปช.นำหน้ามวลชน...มาปี60เหลืองธรรมกายหน้ากากผ้าอนามัยนำหน้ามวลชน” เปลว สีเงิน ชี้ชัดเดิมพัน“ประยุทธ์”ต้องยึด“อาณาจักรจานบินสถานเดียว

       การปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายเพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ดำเนินมาเป็นวันที่5แล้วล่าสุดมีการใช้อำนาจตามม.44ให้บุคคลไม่เกี่ยวข้องออกจากวัด พร้อมทั้งออกหมายเรียกพระวัดพระธรรมกาย14รูปรวมทั้งพระธัมมชโย ซึ่งนอกจากไม่มีใครเดินทางเข้ารายงานกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ภายในวัดก็มีการปักหลักสู้ วันนี้เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์ แห่งนสพ.ไทยโพสต์ ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า

 

ปฏิบัติการ 'หน้ากากผ้าอนามัย'

 

       ปี ๕๒-๕๓ เห็น "แดง นปช." นำหน้ามวลชน...เข้าชน มาปี ๖๐..........เห็น "เหลืองธรรมกาย" นำหน้ามวลชน...เข้าชน!มันก็ดีนะ จะได้ทำให้อะไรๆ ที่คลุมเครือ-คลางแคลง เข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ "ภาพเป็นจริง" ของอาณาจักรธรรมกาย และตัวตนจริงของ "ธัมมชโย"..........ว่าเป็นพระในพุทธศาสนาหรือซาตานลวงโลกในคราบผ้าเหลืองกันแน่? ถูก "ดีเอสไอ-ตำรวจ-สำนักพุทธ-สงฆ์ปกครอง-กรรมการสิทธิฯ" หลอกล่อ เอาน้ำกรอกรู แหย่รัง ๔-๕ ครั้ง แก๊งจานบินก็เสียท่า-หลงกล........

    "ลากหัว-ลากหาง" ออกมาเผยตัวตนแท้จริงให้เห็นจะจะกันเป็นฝูง! ทั้งตัวหัวหน้าแก๊ง "สมีโย" ที่ทำเป็นป่วยจะตาย พอดีเอสไอ "บุกจริง-ค้นจริง" เท่านั้นแหละ ผู้วิเศษกลัวตะราง ถลกสบง ลากตีนโตหนีตูดบาด! และทั้งบรรดาโล้นสมุน หน้าฉากทำสำรวมเคร่งศีล เนื้อแท้เป็นจอมยุทธ์ลวงโลก ภายใต้หน้ากาก "ผ้าอนามัย" เล่นบทเป็น "หน่วยหน้ากล้าตาย" นำกองกำลังพรางหน้าเข้าหักด่านดีเอสไอที่ปิดล้อม  เล่นเจ้าล่อ-เอาเถิด.........เป็นการหน่วงดึงการเข้าปฏิบัติการ เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าแก๊งมีเวลาหนีได้สะดวก!

       เรื่องธัมมชโยอยู่ไหน?นอกจากคำตอบกวนโอ๊ยจากเฮียหนิดวงศ์ ที่ว่า "หลวงพ่ออยู่ในใจและอยู่ในยูทูบ" แล้ว เมื่อวาน (๑๙ ก.พ.๖๐) มีคำตอบใหม่อีก ๑ คำตอบ จากพระลูกวัดธรรมกาย "ชื่อพระธรรมศักดิ์" เกิด "สำนึกดี-สำนึกชอบ"...........ออกมาแฉว่า "สมีโย" หนีออกจากอาณาจักรจานบินไปตั้งแต่ ๑๖ ก.พ.อันเป็นวันแรกที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นนั่นแล้ว

 

       พระธรรมศักดิ์แสดงหลักฐาน เป็น "คลิปเสียง" ยืนยันความน่าเชื่อถือ อ้างเป็นคลิปเสียงการประชุมพระระดับผู้บริหารวัดพระธรรมกายคืนที่ ๑๘ ก.พ.และท่านอัดไว้ พระธรรมศักดิ์เล่าว่า........ธัมมชโยหนีออกจากวัดตั้งแต่ ๑๖ กุมภา วันแรกที่ดีเอสไอบุกค้น โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการหลบหนี "แต่ไปไหนไกลๆ ไม่ได้หรอก เพราะป่วยหนักจริง น่าจะพักอยู่ละแวกใกล้เคียงนี่แหละ...........มีอุบาสกชื่อ 'โค้ก' อยู่ที่นั่น หลวงพ่อธัมมชโยก็ต้องอยู่แน่ เพราะโค้กเป็นบุคคลที่ดูแลหลวงพ่อใกล้ชิด"

 

       "พระธรรมศักดิ์" บอกถึงเหตุที่ต้องนำความจริงมาเปิดเผย เพราะ........."รู้สึกอึดอัดใจ ที่ทางผู้บริหารวัดพระธรรมกายจะให้พระและลูกศิษย์มาเป็นโล่มนุษย์กำบังให้ระหว่างเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งที่รู้ดีว่า 'พระธัมมชโยไม่ได้อยู่ในวัดแล้ว' แต่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ปะทะ บาดเจ็บ ล้มตาย เพราะพระลูกวัดมีความศรัทธาต่อพระธัมมชโย จนพร้อมยอมตาย หากมีความสูญเสียเกิดขึ้น ก็จะกลายเป็นความผิดของดีเอสไอ ซึ่งอาตมาก็ไม่อยากเห็นพระและศิษยานุศิษย์ของวัดได้รับบาดเจ็บ

        และเมื่อคืนที่ผ่านมา อาตมาก็ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของทางวัด"พูดพลาง โชว์หลักฐานคลิปเสียง แต่ไม่ยอมให้นักข่าว เพียงแต่เล่าถึงอาการอาพาธธัมมชโยว่า........."อาพาธจริงตามที่เป็นข่าว แต่พระลูกวัดส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นตัวพระธัมมชโย มีพระเพียง ๕ รูป ที่สนิทกับพระธัมมชโยเท่านั้น ที่ได้เห็นพระธัมมชโย"

 

       พระธรรมศักดิ์รูปนี้ บวชอยู่วัดธรรมกายมา ๓๐ ปีแล้ว มีหน้าที่ดูแลศูนย์คอมพิวเตอร์วัด ท่านบอก "รู้สึกไม่พอใจ" ผู้บริหาร ในการเผยแพร่ข่าวสารทางวัดต่อญาติโยมว่า "ทำไมต้องโกหก"!จนครั้งนี้ จึงปลีกตัวออกมา แฉถึงพฤติกรรมและเส้นทางหลบหนีของธัมมชโยให้คนภายนอกได้รับรู้ "เมื่ออาตมาเปิดเผยความจริงนี้แล้ว ก็คงต้องออกจากวัด กลับไปจำพรรษาอยู่ในวัดต่อไปอีกไม่ได้แล้ว"

 

       นี่....ผมก็เก็บมาจากข่าวคราวเมื่อวานมาเล่าต่อ พระธรรมศักดิ์รูปนี้ ทางดีเอสไอนิมนต์ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม และอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ครับ...เรื่องสมีโย-ธรรมกาย ดูท่าจะเป็นรามเกียรติ์ผสมสามก๊ก อีกยาวกว่าจะจบ มีคำหนึ่ง อยากบอกรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เมื่อใช้ ม.๔๔ ให้ "เขตวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ" แล้ว นั่นเท่ากับ รัฐบาล คสช.ปักธงเผด็จศึก

       ปัญหา "สมีโย-ธรรมกาย" ต้องจบ! ผมเห็นด้วย และเท่าที่สดับเสียงชาวบ้าน ส่วนใหญ่ก็อนุโมทนาสาธุ เมื่อรัฐบาล "ต้องจบ" ก็แน่นอน ทั้งขบวนการลัทธิธรรมกาย และทั้งขบวนการ "สมประโยชน์" ในลัทธิธรรมกาย ต้อง "ไม่ยอมให้จบ"!เดิมพันในเรื่องนี้ของ คสช.คือ "กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย" แต่ถ้าถึงระดับใช้ ม.๔๔ แล้ว รัฐบาล คสช.ยังไม่สามารถเผด็จศึก เอา "สมีโย-ธรรมกาย" เข้าอยู่ภายใต้กฎหมายไม่ได้

 

       คสช.ก็จะอยู่แบบ "มีความน่าเชื่อถือ" ยาก! เพราะในเมื่อ "ด้วยอำนาจพิเศษ" ยังปราบสมีโย-ธรรมกายไม่ได้ มันไม่กลัวแล้วใช้ปราบอะไรได้ และใครจะกลัว? ความเป็น "องค์รัฏฐาธิปัตย์" ของนายกฯ ประยุทธ์ "จบทันที"! ด้วยเดิมพันหน้าตักเช่นนี้ ...........ผมจึงมองว่า นอกจากตำรวจ-ดีเอสไอ และหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่สัมพันธ์ จะเหยาะแหยะ-เหลาะแหละ เหมือนก่อนๆ ไม่ได้แล้ว อย่าคลายมือ...........

 

       คลายเมื่อไหร่ ถูกกองทัพจิ้งเหลืองขี้ใส่เต็ม ๒ กำมือแน่นอน! สถานการณ์ตอนนี้ แก๊งสมีโยหลังชนฝา "สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย" ในทางตายสถานเดียวนั้น สู้ดีกว่า ยังมี .๐๐๐๐๐๐๐๑% เป็นโอกาสให้รอด! สู้ด้วยอาวุธ ผมไม่รู้ และไม่ขอพูดถึง แต่ที่แน่ๆ สู้ด้วยเล่ห์กลมายาของโล้นใต้หน้ากาก "ผ้าอนามัย" ตำรวจที่ไปปฏิบัติการในพื้นเล่า พร้อมยกแขนให้นักข่าวดู รอย จิก-หยิก-ข่วน บอก....นี่เป็นฝีมือ "รสพระทำ"

        ตลอดรายการประจันหน้า จะมี "โล้นกาโม่" หน้ากากผ้าอนามัย ถือโทรโข่งออกบัญชาการ พอหน่วยโล้นมารยาสาไถย ทุ่มตัวกระแทกใส่ตำรวจ ก็จะตะโกนใส่โทรโข่ง"อย่าทำร้ายพระ...อย่าทำร้ายพระ" แต่ที่จริง พระตะหากที่เป็นฝ่ายทำร้ายตำรวจเหย็งๆ! ตำรวจนายนั้น ยังบอกโล้นเจ้าเล่ห์นั้นว่า "สึกเมื่อไหร่บอกนะ" เจ้าโล้นนั่นถาม "ทำไม.......?"  ตำรวจว่า "ไม่ทำไมหรอก จะให้ไปแสดงละคร"!

 

       นี่เป็น "ตลกโล้น" แต่ด้วย "เล่ห์โล้น-มายาเหลือง" นี่แหละ ระวัง...จะสร้างเงื่อนไข สร้างเหตุ  เป็นว่าตำรวจ-ดีเอสไอ ทำร้ายพระ ทำร้ายสาวกที่ระดมหนุนเนื่องเข้าไปอยู่ข้างในตอนนี้  สังเกตให้ดี ที่ระดมมารอบนี้ หน้าตา-เสื้อผ้า-ท่าทาง "เกรียม-กลัวแสง-กลัวกล้อง" หลบหน้า-หลบตาส่อพิรุธ คนละแบบ-คนละพวกกับ "สาวกตัวจริง" ที่ระดมมาคราวก่อน ชนิด "แก้มหน้าเป็นแก้มก้น"

 

       เมื่อวาน สาวกจานบิน หักล้างคำสั่ง ม.๔๔ ที่ว่า "คนในห้ามออก-คนนอกห้ามเข้า" โดยหักด่านตำรวจพาเหรดเข้าไปข้างในกันได้ เรียกว่าทดสอบ ม.๔๔ แล้ว "เข้มแต่ยังไม่แข็ง" จริง! ดูท่าจะเหิม ยกกำลัง ๒ เห็นออกข่าวป่าวร้องระดมคนยกใหญ่ เรียกเครือข่ายใต้น้ำเงินธรรมกายใน-นอกประเทศมาช่วย ก็อยากจะบอก..........กำลังถูกดีเอสไอใช้ "แผนซ้อนแผน" รู้มั้ย! เขาหลอกล่อให้ "ออกลายมาเลย" เหลือกออกลายมามากๆ ชาวบ้าน-ชาวโลกเขาจะได้รู้เช่นเห็นสันดาน ว่าธรรมกายไม่ใช่วัดในพระพุทธศาสนา แต่เป็นแหล่งสิงสู่ของเหล่าซาตาน อันมีสมีโยเป็นซาตานเจ้าลัทธิลวงโลก!

       แล้วทุกหัว-ทุกหางที่โผล่ จะถูกดีเอสไอปักชะนักคาไว้ รอรวบปากแหพร้อมกัน เอากันยกโหลไปเลย เมื่อวาน (๑๙ ก.พ.) จึงเห็น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี DSI ออกคำสั่งเจ้าพนักงาน ดังนี้ อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2560 ข้อ 3 (2) (3) และ (8) และข้อ 4 จึงมีคำสั่งเรียกให้บุคคลมารายงานตัวต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ณ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 เลขที่ 61 หมู่ 6 ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 19 ก.พ.2560 เวลา 18.00 น. ดังนี้

 

       1.พระธัมมชโย หรือพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย)

       2.พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว

       3.พระมหาสมชาย ฐานวุฒโฒ

       4.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือพระวิเทศ ภาวนาจารย์

       5. พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก

       6. พระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก

       7. พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือพระครูแอ

       8. พระสนิทวงศ์ วุฑธิวังโส

       9. พระมหานพพร ปุญญชโย

       10.พระภาสุระ ทันตมโน (ใจวงศ์)

       11.พระนพดล สิริวังโส

       12.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต

       13.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโภ

       ในการนี้ขอให้ท่านนำเอกสารแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ ซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้มาใช้แสดงตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ผู้ใดขัดขวางหรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนี้ มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สั่ง ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560  พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2560

 

และต่อจากนี้ จะตรวจสอบหนังสือ ใบสุทธิ ของพระภิกษุ รวมถึงตรวจสอบผู้ที่มาชุมนุมรวมถึงผู้ที่อยู่ภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์และบุคคลที่วัดมอบให้ดีเอสไอไว้ก่อนหน้านี้

 

เถอะ.... ถึงไม่มีใครไปรายงานตัวหรือออกจากวัดตามเส้นตาย อย่านึกว่า "ชิตัง เม" นะ

 

ประมาณ ๑๕ ปี "อายุความ" จะใช้พวกมาก "ชิตัง เม" ไปได้ตลอด ก็จะดีใจด้วย

 

ขอย้ำ อาณาจักรจานบินต้อง "ถูกยึด" สถานเดียว!

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์